th th
en

กระทรวงวิทย์ฯ สุดเจ๋ง เนรมิตนิทรรศการ Miracle of Science : สารพัดพิษ เป็นดินแดนสารพัดพิษดั่งเทพนิยาย 
ชวนเยาวชนตื่นตาตื่นใจไปกับเหล่าพืชพิษและสัตว์พิษที่ซ่อนเร้น 
ภายในงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2560” 
แล้วคุณจะได้รู้ว่า พิษ...เป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่คุณคิด

20 สิงหาคม 2560 – อิมแพ็ค เมืองทองธานี / กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชวนน้องๆ หนูๆ มาท่องป่าลึกลับจำลองแห่งสารพัดพิษ ที่เต็มไปด้วยเหล่าพืชพิษและสัตว์พิษที่ซ่อนเร้น และแฝงด้วยอันตรายในทุกย่างก้าว รู้จักพิษในโลกแห่งจินตนาการทั้งในโลกของเวทมนต์ นิทาน และนิยาย รวมทั้ง มนุษย์นำพิษต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ใน “นิทรรศการสารพัดพิษ” (Miracle of Science : Biotoxin) ภายในงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2560” (National Science and Technology Fair 2017) ตั้งแต่วันนี้-27 สิงหาคม 2560 ณ ฮอลล์ 2-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี อย่าพลาดชม Science Drama – ละครพิษใกล้ตัว, Research Show by Naturalist – Biotoxin: ชีวพิษ โดยนักธรรมชาติวิทยาจากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) พร้อมค้นหาเรื่องราวของพิษในธรรมชาติที่อยู่ใกล้ตัวเรามากชนิดคาดไม่ถึง

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี จัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2560 มาตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม เป็นต้นมานั้น นิทรรศการสารพัดพิษ หรือ Miracle of Science : Biotoxin เป็นหนึ่งในนิทรรศการที่ได้รับความนิยมติดอันดับต้น ๆ ด้วยการออกแบบตกแต่งนิทรรศการในรูปแบบ Fantasy เนรมิตให้เป็นดินแดนสารพัดพิษ ราวกับกำลังท่องไปในเทพนิยาย ดินแดนที่ปกคลุมไปด้วยไอหมอกแห่งความลึกลับของบรรดาเหล่าพืชพิษและสัตว์พิษที่ซ่อนเร้น ที่ด้านหน้าที่แม่มด 2 ตนคอยต้อนรับผู้เข้าชมให้เข้าไปค้นหาดินแดนลึกลับแห่งนี้ พลาดไม่ได้กับโลกใต้ท้องทะเลของแมงกะพรุน ตื่นตาตื่นใจไปกับตัวอย่างของแมงกะพรุนกล่องและแมงกะพรุนหมวกโปรตุเกส ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง เต็มอิ่มด้วยเนื้อหาสาระน่ารู้คู่ความบันเทิงด้วยเรื่องราวหลากหลายแง่มุมความมหัศจรรย์น่าทึ่งที่เกี่ยวกับชีวพิษของพืชและสัตว์นานาชนิด พร้อมทั้งสนุกสนานไปกับกิจกรรม Hands on และกิจกรรมหลากหลายบนเวที Mini stage ทั้งนี้ นิทรรศการชุดนี้เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจต่อสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ โดยเฉพาะพืชพิษและสัตว์พิษที่มีความสำคัญและมีเหตุผลของการดำรงอยู่ เพื่อสร้างความสมดุลให้ระบบนิเวศของตนเอง ภายใต้การเรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต และรู้จักการปรับตัวให้อยู่รอดปลอดภัยในสภาวะต่าง ๆ พร้อมทั้งสร้างความระมัดระวังตัวและสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในภาวะฉุกเฉิน โดยแบ่งการนำเสนอนิทรรศการออกเป็น 4 โซนด้วยกัน ดังนี้

IMG 7548 2

    โซนที่ 1 พิษในจินตนาการกับพิษในโลกความจริง เริ่มต้นเดินทางเข้าสู่ดินแดนแห่งพิษ ที่ปกคลุมไปด้วยไอหมอกแห่งความลึกลับของเหล่าพืชพิษและสัตว์พิษ เชิญเข้ามาทัศนาและรู้จัก “พิษ” ในโลกแห่งจินตนาการทั้งในโลกของเวทมนตร์ นิทาน และนิยายที่มีเรื่องเล่าของพิษมากมาย อาทิ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด, พ่อมดน้อย แฮรี่ พอตเตอร์, หรือสุดยอดวรรณกรรมของวิลเลียม เชกสเปียร์ “โรมิโอ แอนด์จูเลียส” พบกับสารชีวพิษที่สร้างหรือได้มาจากสิ่งมีชีวิตทุกประเภททั้งพืช สัตว์ แบคทีเรีย เชื้อรา และจุลินทรีย์อื่น ๆ ที่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง เช่น การกิน การสูดดม กัด ต่อย และมีฤทธิ์ต่อระบบของร่างกาย หรืออาจก่อให้เกิดโรคบางโรคได้

 

IMG 7732

 โซนที่ 2 สารพัดพันธุ์พิษ ดินแดนสารพัดพิษที่แฝงด้วยความอันตรายทุกย่างก้าวของพันธุ์พืชและสัตว์พิษนานาชนิด พืชบางชนิดที่อยู่ใกล้ตัวเราอาจซ่อนพิษไว้ หรือสัตว์บางชนิดที่เราพบเห็นอาจมีพิษร้ายแรงซ่อนอยู่ โดยให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสชีวพิษผ่านการจำลองบรรยากาศของป่าทึบที่รายล้อมสัตว์มีพิษมากมาย ได้แก่ กลุ่มแมง-แมลงตัวจิ๋วแต่พิษร้ายกาจ อสรพิษนานาชนิด นกที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพิษสง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่น่ารักแต่แฝงด้วยพิษอันน่ากลัว สัตว์ครึ่งบก-ครึ่งน้ำที่มีสีสันสดใสจนน่าสะพรึง ตลอดจนพันธุ์พืชพิษที่แฝงตัวอยู่ตลอดเส้นทางการเดินป่าจำลอง จากนั้นก้าวสู่โลกใต้น้ำ พบสัตว์น้ำใกล้ตัวที่มีพิษมากมาย ถัดลึกเข้าไปจะพาไปดำดิ่งสู่ใต้มหาสมุทร โดยมีไฮไลท์เป็นห้องแมงกะพรุนที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานการจัดแสดง ทำให้ผู้เข้าชมเพลิดเพลินและตื่นตาตื่นใจพร้อมกับสาระความรู้มากมาย ต่อด้วยโซนสัตว์ทะเลมีพิษอีกมากมาย ทั้งปลาปักเป้า แมงดาทะเล และปะการัง ก็มีให้ชมกันอย่างจุใจเป็นการปิดท้ายโซนสารพัดพันธุ์พิษ

IMG 0263

 โซนที่ 3 มากเป็นพิษ น้อยนิดเป็นยา ชีวพิษมากมายที่อยู่รอบตัวเราทั้งพืชและสัตว์ ตลอดจนสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอย่างจุลินทรีย์ ล้วนต่างเคยสร้างความเจ็บปวดทุกข์ทรมานให้กับมนุษย์มาแล้ว แต่ในธรรมชาติพิษในสิ่งมีชีวิตถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์หลัก คือ การปกป้องตัวเองจากศัตรูและผู้รุกราน หรือการล่าเหยื่อเพื่อเป็นอาหารเท่านั้น ผ่านเรื่องเล่าจากเหตุการณ์จริง และการจำลองโต๊ะรับประทานอาหารที่นำเสนอเมนูอาหารจานเสี่ยงที่เป็นเมนูยอดนิยม และอาจนำมาซึ่งอันตรายได้ เช่น เนื้อปลาปักเป้า ยำไข่แมงดา หอยนางรม และหอยแมลงภู่ รวมถึงเครื่องปรุงที่เต็มไปด้วยสารอัลฟาท็อกซินที่ล้วนทำอันตรายให้กับคนเราได้ แต่พิษ...ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป หากรู้จักการนำพิษมาใช้อย่างถูกต้อง ถูกวิธี พิษที่แสนร้ายก็สามารถกลับกลายเป็นยาที่แสนวิเศษของมวลมนุษยชาติได้ เช่น ยาโบท็อกจากจุลินทรีย์ พิษจากสัตว์เพื่อนำมารักษาโรค รวมทั้ง พิษจากยางของต้นยางน่องที่ชนเผ่าซาไกนำมาใช้ในการล่าสัตว์ และอีกมากมายกับสารพัดความมหัศจรรย์ของพิษ

          โซนที่ 4 ทันคิด ทันพิษ โซนแห่งการป้องกันพิษจากสัตว์และพืช เพราะพิษ..ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว หากเราเรียนรู้และทำความเข้าใจในธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ จะทำให้เราสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข เข้าใจในธรรมชาติและความแตกต่างของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ร่วมกันในระบบนิเวศต่าง ๆ ทำให้เรารู้จักระมัดระวังตัว และสามารถช่วยเหลือตนเองได้เมื่อได้รับพิษ

IMG 0285

 โซนที่ 5 สนุกพิษ สนุกวิทย์ โซนกิจกรรมสุดหรรษาที่มีทั้งกิจกรรมทำมือ (Hands-on) สำหรับเด็กเล็กที่มีถึง 5 กิจกรรม ได้แก่ แมงกะพรุนหลากสี (Jellyfish Identity) แมงมุมชักกระตุก (Crawling Spider) เข็มพิษเพชฌฆาต (Cone Snail Missile) ปักเป้ากระปุ๊กลุก (Bubble Puffer Fish) และอสรพิษแสนซน (Creating a Coiling Snake) ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบนเวที (Stage Show) ที่อัดแน่นไปด้วยสาระและความบันเทิงตลอดทั้งวัน ได้แก่ นักธรรมชาติวิทยาเล่าเรื่องพิษ (Research Show by Naturalist: Biotoxin), ละครเวที ชุด พิษใกล้ตัว (Science Drama), ปริศนาสารพัดพิษ (Biotoxin Quiz), นิทานเล่าเรื่องพิษ (Biotoxin and Fairy Tale), เกมทิ้งไพ่สารพัดพิษ (Biotoxin Card Game), และเกมแกะรอยพิษ (Biotoxin Detective)

         ดร.อรรชกาฯ กล่าวทิ้งท้ายเชิญชวนเยาวชนและประชาชนทุกท่านอย่าพลาดชมนิทรรศการชุด “นิทรรศการสารพัดพิษ” (Miracle of Science : Biotoxin) กับสาระน่ารู้คู่ความบันเทิงด้วยเรื่องราวหลากหลายแง่มุมที่เกี่ยวกับพิษของพืชและสัตว์นานาชนิดที่คุณหรือใครอาจไม่เคยล่วงรู้มาก่อน ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2560 ระหว่างวันที่ 17-27 สิงหาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น. ณ ฮอลล์ 2-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อได้ที่ โทร 0 2577-9960 เวลาที่เหมาะสำหรับการเข้าชมสำหรับประชาชนทั่วไป วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-19.00 น. ติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดงานได้ที่ www.thailandnstfair.com หรือ Facebook : มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ LINE ID: @thailandnstfair หรือ Instagram : Thailandnstfair หรือสอบถามข้อมูลที่ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โทร. 0 2577 9960 สื่อมวลชนสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โทร 0 2577 9999

 

วันที่ 10 สิงหาคม 2560/ ดร.อภิญาณ์ หทัยธรรม รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) (คนที่ 4 จากซ้าย) และคณะผู้บริหารจาก อพวช. ให้การต้อนรับ Mr. ZHANG Xiaohu ผู้อำนวยการ Beijing Youth Science Center, BAST (คนที่ 4 จากขวา) และคณะผู้บริหารจาก Beijing Association for Science and Technology (BAST) เพื่อเยี่ยมชมและร่วมหารือความร่วมมือ ด้านสมาคมวิทยาศาสตร์ และการศึกษาวิทยาศาสตร์ของเยาวชน ซึ่งทางรัฐบาลของปักกิ่งได้มีการเน้นย้ำและผลักดัน ในด้านของการศึกษาวิทยาศาสตร์ พร้อมส่งเสริมการปลูกฝังวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชนเพื่ออนาคตของประเทศ ณ อพวช. ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

IMG1973800533
IMG1977800533
IMG1983800533
IMG1938800533
IMG1945800533
IMG1962800533
IMG1934800533
IMG1928800533
IMG1931800533
IMG1923800533

 

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับโรงเรียน วิเชียรติมาตุ จังหวัดตรัง จัดคาราวานวิทยาศาสตร์ อพวช. เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนที่สนุกและสร้างสรรค์จินตนาการกับกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ที่หลากหลาย ในรูปแบบนิทรรศการและกิจกรรมเคลื่อนที่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชน สู่การต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมให้กับประเทศ ในวันที่ 8 – 11 สิงหาคม 2560 ณ หอประชุม โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง

IMG 2590 800x533

จังหวัดตรัง/9 ส.ค. 2560 – ดร.ดรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความมุ่งมั่นในการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมให้กับประเทศ พร้อมมุ่งสร้างความตระหนักทางด้านวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งเด็ก ๆ นับเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่ง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงมุ่งเน้นการกระตุ้น สร้างแรงบันดาลใจ ให้เกิดความสนใจใฝ่รู้ เกิดความรู้ และความเข้าใจ ในความสำคัญของวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่วัยเยาว์ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เช่น ที่ อพวช. ต. คลองห้า จ.ปทุมธานี ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 3 แห่ง คือ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ขณะเดียวกัน ยังมีหอดูดาวกว่า 5 แห่งกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมยังมี Space Inspirium เพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ที่อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ ศรีราชา จ.ชลบุรี อีกด้วย

IMG 2592 800x533

   นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่อีก 2 แห่งที่ อพวช. คือ พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า แหล่งเรียนรู้ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม รวมถึงแนวคิดการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคต หรือฟิวเจอร์เรียม แหล่งเรียนรู้แนวใหม่ที่จะเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงเตรียมตัวประชาชนให้ตั้งรับและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมและทิศทางการพัฒนาประเทศไทยในอีก 25 ปีข้างหน้า โดยนำอุตสาหกรรม 5+5 มาพัฒนาเป็นนิทรรศการ รวมถึงอาชีพในอนาคตอีก 100 อาชีพที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย โดยเฉพาะอาชีพในสายวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นกำลังคนที่ประเทศชาติต้องการและขาดแคลนอย่างหนัก ซึ่งแหล่งเรียนรู้ทั้งหมดในพื้นที่ของ อพวช. เหล่านี้ มีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท และหากแล้วเสร็จ ประเทศไทยจะกลายเป็นย่านแห่งการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์อย่างสมบูรณ์แบบและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน


          ในขณะที่กิจกรรม คาราวานวิทยาศาสตร์ อพวช. ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่สามารถตอบโจทย์การสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ให้กับสังคมได้อย่างดียิ่งของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เพราะเป็นกิจกรรมที่เข้าถึงเยาวชนได้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเริ่มจากจุดประกายความสนใจ และสร้างแรงบันดาลใจ ด้วยเป็นกิจกรรมที่ให้ทั้งความรู้ และความสนุกสนาน เพื่อนำไปสู่การอยากเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นอาจจะนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีนวัตกรรมให้กับประเทศต่อไป

IMG 2598 800x533

นางกรรณิการ์ วงศ์ทองศิริ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 12 ปี ที่ อพวช. ได้เริ่มออกเดินทางจัดกิจกรรม คาราวานวิทยาศาสตร์ เรามีความพยายามจะไปจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมขนาดใหญ่ใช้พื้นที่เต็มหอประชุม และห้องจัดกิจรรมโดยรอบพื้นที่ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงานในท้องถิ่นประจำจังหวัดในการใช้พื้นที่จัดแสดง แม้แต่ในถิ่นทุรกันดาร อพวช. เองก็เพิ่มสายการจัดคาราวานวิทยาศาสตร์ เป็นรถขนาดเล็กที่มีนิทรรศการและกิจกรรมเพื่อสะดวกในการขนย้ายขึ้นงานไปจัดแสดง เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้เพิ่มพูนประสบการณ์แปลกใหม่ พร้อมทั้งได้ค้นหาคำตอบจากนิทรรศการด้วยตนเอง ควบคู่กับการเล่นอย่างสนุกสนานอีกด้วย

IMG 2594 1 800x533

    โดย กิจกรรมคาราวานวิทยาศาสตร์ อพวช. ที่กำลังจะจัดแสดงนั้น ประกอบไปด้วยนิทรรศการวิทยาศาสตร์แบบสื่อสัมผัส ชุด Wit in Case ที่สร้างการเรียนรู้วิทยาศาสตร์พื้นฐานด้านกลศาสตร์ แม่เหล็กไฟฟ้า ปฎิกิริยาตอบสนองการมองเห็น คณิตศาสตร์ แสง สี เสียง และการแก้ปัญหากับชิ้นงานกว่า 60 ชิ้น พร้อมด้วยนิทรรศการ Enjoy Science Careers (สนุกกับอาชีพวิทย์) กว่า 10 อาชีพ ในสายงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อกระตุ้นความสนใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน ให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ กิจกรรม Maker Space กิจกรรมสร้างสรรค์จินตนาการ พัฒนาระบบความคิดไปสู่การเป็นนักประดิษฐ์ในอนาคต กิจกรรมวิทยาศาสตร์สุดหรรษา สนุกคิด ประดิษฐ์ ทดลอง ท้าทายความสามารถและจินตนาการผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์ อาทิ จรวดหลอด, ลูกบอล ค้างฟ้า, 180 ไอคิว เป็นต้น กิจกรรมท้องฟ้าจำลองเคลื่อนที่ เพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้เรื่องดาว กลุ่มดาว การดูทิศทาง ตำแหน่งของเราบนพื้นโลกเทียบกับดวงดาว การจินตนาการบนท้องฟ้า และเรื่องราวตำนานแห่งดาราศาสตร์ ไปกับเครื่องฉายภาพยนตร์ในระบบ 3 มิติแบบ Full dome ลงมือทำการทดลองวิทยาศาสตร์ด้วยตนเองกับ ห้องปฎิบัติการเคลื่อนที่ ในตอนคนแกล้งดิน และร้อยเสียงหรรษา สนุกตื่นตาไปกับ การแสดงทางวิทยาศาสตร์ ตอนสนุกกับการเคลื่อนที่ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 14 รอบคัดเลือกในระดับภูมิภาค ที่จะไปจัดการแข่งขันตามจังหวัดต่าง ๆ ภายในกิจกรรมคาราวานวิทยาศาสตร์ อพวช. อีกด้วย

IMG 2597 800x533

  สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 577 9999 ต่อ 2109 และ 2123 หรือติดตามได้ที่ www.nsm.or.th

 

 

18 สิงหาคม 2560 - อิมแพ็ค เมืองทองธานี / เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างยิ่งใหญ่กับงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2560” (National Science and Technology Fair 2017) ก้าวสู่ปีที่ 12 ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม” รวมสุดยอดนิทรรศการและกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมทั้งในและต่างประเทศ มาจัดแสดงอย่างอลังการ พลาดไม่ได้กับไฮไลท์ 4D Simulator พร้อมพบกับนิทรรศการในรูปแบบดินแดน Fantasy และเปิดประสบการณ์ มโหฬาร มหึมา มหัศจรรย์ ร่วมผจญภัยเรียนรู้ไปในโลกเหนือจินตนาการกับนิทรรศการสุดอลังการแห่งปี พร้อมชมนวัตกรรมทางเลือกใหม่แก้ปัญหาวิกฤตพลังงาน นวัตกรรมเกษตรเกรดเอ นวัตกรรมเพื่อผู้สูงวัย และกิจกรรมสุดท้าทายอีกมากมาย ตั้งแต่วันที่ 17-27 สิงหาคม 2560 ณ ฮอลล์ 2-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

IMG 4908 800x533

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวในการเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2560” ตามที่ได้รับมอบหมายจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2560 จัดขึ้นเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” อีกทั้ง ในปีนี้ยังมีแนวคิดเพื่อสื่อสารถึงความสำคัญของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป้าหมายการพัฒนาประเทศเข้าสู่ Thailand 4.0 และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ Sustainable Development Goals (SDGs) และเพื่อร่วมฉลองวาระสำคัญทางวิทยาศาสตร์ในโอกาสที่องค์การสหประชาชาติ (UNESCO) มีมติให้ปี 2560 เป็น “ปีสากลแห่งการท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” หรือ “2017 International Year of Sustainable Tourism for Development” ซึ่งเป็นหนึ่งในการสนับสนุนเป้าหมายของ SDGs อีกด้วย ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม” โดยการผนึกกำลังร่วมกันของ 10 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม, กระทรวงพลังงาน, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงคมนาคม กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 72 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมุ่งให้เกิดการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านนิทรรศการและกิจกรรมที่หลากหลาย เยาวชนไทยจะได้เรียนรู้ทุกประสาทสัมผัส ในมิติใหม่ ด้วยเทคโนโลยีที่นำสมัย สร้างความตื่นเต้น สร้างแรงบันดาลใจ สร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ ที่สำคัญในปีนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างประเทศอีกถึง 7 ประเทศ 16 หน่วยงาน ร่วมจัดกิจกรรมแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรมการค้นคว้าใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ ได้แก่ ญี่ปุ่น (9 หน่วยงาน) สหรัฐอเมริกา (2 หน่วยงาน) สหราชอาณาจักร เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ เพื่อกระตุ้นความสนใจให้แก่นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป โดยมีรูปแบบของการจัดกิจกรรมในงานคล้ายกับเทศกาลวิทยาศาสตร์ (Science Festival) ในหลายประเทศ คือ ประกอบด้วยการจัดนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในรูปแบบทันสมัยที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วม (Interactive Exhibition) ในการเรียนรู้

IMG 4397 800x533

สำหรับการนำเสนอในปีนี้มุ่งที่จะให้เยาวชนไทยได้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเรื่อง เป้าหมายการพัฒนาประเทศเข้าสู่ Thailand 4.0 นอกจากนี้ ยังได้มีการนำแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องสะเต็มศึกษา (STEM Education) มาใช้ในการจัดกิจกรรมในรูปแบบ เล่น-เรียน-รู้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ อันจะเป็นการกระตุ้นความสนใจแก่นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนที่ต้องเติบโตและเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไปในวันข้างหน้า ในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปต่อยอดเพื่อพัฒนาชีวิต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศต่อไป

IMG 4908 800x533

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวเสริมถึงความยิ่งใหญ่ของงานนี้ว่า มหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้มีการดำเนินการปรับปรุงรูปแบบการจัดแสดงนิทรรศการให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพิ่มกิจกรรมและองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์สำหรับทุกเพศทุกวัยให้ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ร่วมสนุกและทดลองอย่างเพลิดเพลิน ภายในงานประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมหลากหลายถึง 5 โซน มากมายองค์ความรู้ให้ทุกคนได้เข้าไปมีส่วนร่วม ตั้งแต่นิทรรศการเทิดพระเกียรติ, นิทรรศกลางที่นำเสนอประเด็นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่กำลังอยู่ในความสนใจของประชาชน หรือมีความสำคัญมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการพัฒนาประเทศในอนาคต, กิจกรรมวิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตในแนวทางสะเต็มศึกษา, นิทรรศการแสดงศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทย การประกวดและแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ การประชุม สัมมนา และการแสดงสินค้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมการนำเอาเทคโนโลยีและมัลติมีเดียใหม่ ๆ มาใช้ในการจัดแสดง เพื่อสร้างประสบการณ์ เปิดมุมมองการเรียนรู้ผ่านสื่อ Interactive พร้อมด้วยนิทรรศการรูปแบบ 4D Simulator ที่มาช่วยเติมเต็มความสุข สนุกสนาน และเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ

IMG 5250 800x533

ดร.อรรชกาฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้มีนิทรรศการหลักที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ (Royal Pavilion) นำเสนอพระวิสัยทัศน์และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และนำเสนอพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย และ พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” รวมทั้ง นำเสนอพระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ผู้ทรงมีบทบาทและให้ความสำคัญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทรงนำแนวพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 มาเป็นแบบอย่างในการนำองค์ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้แก้ไขปัญหาความทุกข์ยากและยกระดับคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทย

IMG 4785 800x533

สำหรับ นิทรรศการหลัก ที่มีการนำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศเข้าสู่ Thailand 4.0 รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ Sustainable Development Goals (SDGs) และปีสากลแห่งการท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน อาทิ นิทรรศการนวัตกรรมพลังงาน (Energy Innovation) เข้าใจพื้นฐานพลังงาน วิวัฒนาการพลังงานความร้อน รู้จักกับแหล่งพลังงานในโลกและพลังงานหมุนเวียน เพื่อช่วยกันอนุรักษ์แหล่งพลังงานธรรมชาติและแก้ปัญหาวิกฤตพลังงาน ชมนวัตกรรมพลังงานที่ต่อยอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการได้มาซึ่งพลังงานทางเลือกที่เพิ่มขึ้น พบกับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ทางเลือกใหม่ของวินมอเตอร์ไซค์ โดยผลงาน Start up / นิทรรศการนาทีนี้ต้องดิจิทัล (Digital Now) พบกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลจากอดีตสู่ปัจจุบัน รู้จักตัวอย่างของ Disruptive Technology รอบ ๆ ตัว อาทิ การใช้หุ่นยนต์ในการทำงาน การใช้ AI แทนพนักงานออฟฟิศ เทคโนโลยี Block Chain แทนธุรกรรมในธนาคาร พร้อมรู้จักกับอาชีพใหม่ ๆ ที่เกิดจาก Disruptive Technology และยุคดิจิทัล รวมทั้ง สนุกกับการประดิษฐ์หุ่นยนต์ที่สามารถออกคำสั่งได้ผ่านแอพพลิเคชั่น และกิจกรรม Coding เพื่อหัดใช้คำสั่งคอมพิวเตอร์อย่างง่าย / นิทรรศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (International Year of Sustainable Tourism) สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองไทยกับภาพยนตร์ในรูปแบบ 4D Simulator และเทคนิค 4D Effect สมจริงสนุกสนานที่ทุกคนรอคอย...โดยจะมียายพิกุล และหลานบุญมา สองช้างยายหลานที่อาสาพาผู้ชมไปชื่นชมกับความสมบูรณ์และคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติการท่องเที่ยวไทยผ่านมุมมองใหม่ที่จะสนับสนุนให้การท่องเที่ยวยั่งยืนต่อไป พร้อมเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ พบความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมโบราณที่บรรพบุรุษชาวไทยได้สร้าง ที่แม้แต่องค์กรระดับโลกอย่าง UNESCO ยังให้การยอมรับและขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก นิทรรศการเกษตรเกรดเอ (Smart Farm Smart Food) พบกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็วมากขึ้น เพื่อเป็นการรองรับประชากรโลกที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในปี ค.ศ. 2050 ชม Smart Farmer’s House ระบบการเกษตรแม่นยำสูง แนวทางการทำการเกษตรแนวตั้ง เกษตรครัวเรือน ชมนวัตกรรมด้านอาหารที่ทำให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก พลาดไม่ได้กับเกษตรกรต้นแบบที่จะมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และความสำเร็จ พร้อมทั้งส่งต่อแนวคิดสร้างสรรค์ในการทำเกษตรยุคใหม่ อันจะนำไปสู่การเป็น Smart Farmer ที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมไทยสู่การเป็นผู้นำด้านความมั่นคงทางอาหารของโลกในอนาคต เป็นต้น

IMG 4324 800x533

นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการที่ให้ความรู้ความเข้าใจและสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นในสังคม และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันทั้งในปัจจุบันและอนาคต อาทิ นิทรรศการยุคมนุษย์ครองโลก (Anthropocene) การใช้ทรัพยากรเกินจำเป็นแบบไม่จบสิ้นจนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ อาจทำให้การสูญพันธุ์กลับมาอีกครั้ง นิทรรศการชุดนี้จะพาทุกคนเข้าสู่ยุค “มนุษย์กำหนดอนาคตโลก” ร่วมกับตระหนักถึงปัญหาและร่วมกันหาทางออกแห่งอนาคตด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่จะมาปรับให้มนุษย์และธรรมชาติอยู่ด้วยกันต่อไปได้อย่างยั่งยืน พร้อมสนุกไปกับบันไดยักษ์ Carbon Playground เรียนรู้วิวัฒนาการของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน ลองหา Carbon Footprint จาก Lifestyle ของคุณเอง แล้วตัดสินใจว่าอนาคตคุณจะปกป้องโลกได้อย่างไร / นิทรรศการ สูงวัย ใกล้ตัว (Aging Society) พบกับเมืองจำลองสูงวัย ใคร ๆ ก็ต้องเจอ เข้าสู่ “เมืองเพิ่มอายุ” ที่จะทำให้ผู้เข้าชมสัมผัสประสบการณ์สูงวัย ทดลองเป็นผู้สูงวัยด้วยอุปกรณ์และฐานจำลอง 5 ฐาน เพื่อความเข้าใจผู้สูงวัยมากขึ้น และเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ผู้สูงวัยในอนาคตที่ทุกคนต้องเจอ สนุกกับเมืองอัจฉริยะแสนสุขสำหรับทุกช่วงวัย ในรูปแบบเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงวัยกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม / นิทรรศการสารพัดพิษ (Biotoxin) ที่นำเสนอในรูปแบบ Fantasy เหนือจินตนาการ ดินแดนสารพัดพิษที่ปกคลุมด้วยไอหมอกแห่งความลึกลับกับเหล่าพืชพิษและสัตว์พิษที่ซ่อนเร้น และแฝงด้วยอันตรายในทุกย่างก้าว มาเรียนรู้เรื่องพิษที่มีโทษต่อมนุษย์ ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้พิษเหล่านั้นมาสร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์ได้ในคราวเดียวกัน สนุกสนานกับละครและนิทานหรรษานานาพิษ ชมสัตว์ พืช แมลง ดอกไม้พิษชนิดต่าง ๆ และรู้จักว่าพิษของมันมาจากไหน / นิทรรศการยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึก (Monsters of The Sea) อีกหนึ่งนิทรรศการสุดอลังการเหนือจินตนาการที่จะนำผู้เข้าชมเดินทางไปในมหาสมุทรใต้ท้องทะเลลึก ตื่นตาตื่นใจไปกับสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์โบราณที่เป็นจ้าวทะเลลึกในยุค Mesozoic ซึ่งเป็นยุคเดียวกับไดโนเสาร์ ที่มีความยาวมากถึง 5-10 เมตร ด้วยเทคนิคการแสดง Animatronics ที่เลียนแบบการเคลื่อนไหวในชีวิตจริง ก่อนนำไปจัดแสดงอย่างเต็มรูปแบบที่ อพวช. คลองห้า จ.ปทุมธานี เร็ว ๆ นี้ อาทิ เพลซิโอซอรัส’ (Plesiosaurus) ตำนานต้นฉบับของเนสซีแห่งทะเลสาปล็อคเนสส์ ที่มาพร้อมกับ ‘เมกาโลดอน’ (Megalodon) ฉลามยักษ์ฟันโตขนาดเท่าฝ่ามือ เรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการ การปรับตัว และการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ในท้องทะเล ตลอดจนสาเหตุของการสูญพันธุ์ / ยิ่งไปกว่านั้นภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมสำหรับเยาวชน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการเรียนรู้ในแนวทาง STEM Education ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์และต่อยอดสู่อาชีพที่เกี่ยวข้องกับ วทน. ได้แก่ ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ลานกิจกรรมพัฒนาปัญญาเยาว์ (Kids Zone) ลานประกวดแข่งขันและแสดงผลงานโครงงานสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ ห้องฉายภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ เป็นต้น

IMG 5376 800x533

ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ในบูธต่างประเทศยังจัดแสดงผลงานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรมการค้นคว้าใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ให้เยาวชนและประชาชนคนไทยได้ชมกันอีกด้วย อาทิ บูธประเทศสหรัฐอเมริกา นำเสนอการติดตามสุริยุปราคาเต็มดวงที่จะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ และหน่วยงานนาซ่าจะมาให้ข้อมูลดาวเทียม และนำ simulator จำลองมาให้เด็กๆ ได้ทดลองท่องไปในอวกาศ รวมทั้งจัดแสดงนิทรรศการมัลติมีเดีย (ด้านการถ่ายภาพ โสตทัศน์และการโต้ตอบ) เพื่อให้เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศในรูปแบบที่สนุกสนาน โต้ตอบ บูธประเทศฝรั่งเศส นำเสนอเรื่องราวนักวิทย์หญิง และการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และกิจกรรม workshop ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม สำหรับหน่วยงาน Universcience แห่งฝรั่งเศส มานำเสนอการกำเนิดคณิตศาสตร์และวิวัฒนาการ โดยบอกเล่าผ่านนิทาน 6 เรื่อง และชมลูกคิดยุคแรกในภาษาฮินดู บูธประเทศเยอรมัน โชว์การทดลองวิทยาศาสตร์จากประเทศเยอรมัน ส่วนศูนย์วิทยาศาสตร์เฟโนเมนตา (PHANOMENTA) โชว์เครื่องยนต์นวัตกรรมหรูจากประเทศเยอรมัน ยี่ห้อเบนซ์ และ BMW และหลักการทำงานของเครื่องยนต์ บูธประเทศญี่ปุ่น นำเสนอผลงานวิจัยเพื่อการค้นหาองค์ประกอบของผักและอาหารไทยที่มีผลต่อสุขภาพผู้บริโภค และวิธีการพัฒนาการผลิตอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ยังมีผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์เทคโนโลยีและนวัตกรรมจากประเทศอื่นๆ ที่นำมาร่วมจัดแสดงที่น่าสนใจอีกมากมาย

IMG 4754 800x533

ทั้งนี้ ดร.อรรชกาฯ ได้กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ขอเชิญชวนเยาวชนและประชาชนทุกท่านเข้าชมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2560 ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และหน่วยงานร่วมจัดทุ่มเทเต็มที่เพื่อจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ร่วมสนุกและเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ทุกคนสามารถเข้าชมได้อย่างเพลิดเพลินโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมและร่วมกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ 17-27 สิงหาคม 2560 เวลา 09.00 – 19.00 น. ณ ฮอลล์ 2-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อได้ที่โทร 0 2577 9960 เวลาที่เหมาะสมสำหรับการเข้าชมของประชาชนทั่วไป วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-19.00 น. ติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดงานได้ที่ www.thailandnstfair.com หรือ Facebook : มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ LINE ID: @thailandnstfair หรือ Instagram : ThailandNSTFair

IMG5431800x533
IMG5458800x533
IMG5319800x533
IMG5279800x533
IMG5130800x533
IMG4824800x533
IMG4802800x533
IMG4795800x533
IMG4745800x533
IMG4301800x533

 

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จัดโครงการ เสวนาทางวิชาการ เรื่อง "รู้ทันพิษในชีวิตประวัน" Too close to Ignore: Animal and Mushroom toxins in Everyday Life ขึ้น เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ ที่มีพิษ ตลอดถึงการระแวดระวังป้องกันตัวให้รอดพ้นจากการได้รับพิษ หรือ การรักษาเมื่อตัวเองได้รับพิษจากสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เหล่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อหาในนิทรรศการชุด สารพัดพิษ ที่ถูกจัดแสดงในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2560 นี้ มาร่วมเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพิษในแง่มุมต่าง ๆ ที่อยู่ในชีวิตประจำวันรอบตัวเรา ทั้งจากพืช สัตว์ เห็ดรา และจุลินทรีย์ต่าง ๆ โดยกิจกรรมเสวนาดังกล่าวจะจัดขึ้น ในวันพุธที่ 23 สิงหาคม 2560 เวลา 09.00 -12.00 น. ณ ห้อง AMBER 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

*ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลด กำหนดการและสำรองที่นั่ง ที่ลิงค์ด้านล่าง

กรุณาส่งแบบตอบรับสำรองที่นั่ง ไปยัง โทรสารหมายเลข 0-2577-9991 
หรือ E-mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ภายใน วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2560
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : อพวช. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา 0-2577-9999 ต่อ 1501

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560 พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี (คนกลาง) เป็นประธานเปิดงาน “รวมพลังสื่อสร้างสรรค์สังคมไทย” พร้อมมอบเกียรติบัตรและโล่เชิดชูเกียรติให้กับ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ในฐานะเป็นผู้ผลิตสื่ออย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์  กับ 2 รายการ “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย” และ “ชีวะระยะประชิด” ด้านส่งเสริมการศึกษา ความคิดสร้างสรรค์ และการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่ อพวช. ร่วมผลิตกับ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดยมี นายสุวรงค์ วงษ์ศิริ รองผู้อำนวยการ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) (คนแรกซ้ายมือ) เป็นผู้รับโล่ดังกล่าว ฯ ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์

IMG1894
IMG1851
IMG1865
IMG1884

อพวช. และ ไทยพีบีเอส ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมส่งผลงานเข้าแข่งขันในโครงการประกวดภาพยนตร์สั้นวิทยาศาสตร์ ปีที่ 3 Short Science Film #3 ภายใต้หัวข้อ “Science Around Us” วิทยาศาสตร์รอบตัว ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท และยังได้มีโอกาสร่วมงานกับทีมผู้สร้าง และผู้กำกับภาพยนตร์ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดรับสมัครและร่วมส่งผลงาน ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม จนถึง 30 พฤศจิกายน 2560

IMG 4563 800x533

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (Thai PBS) จัดโครงการ ประกวดภาพยนตร์สั้นวิทยาศาสตร์ “Short Science Film” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว ซึ่งในปีนี้ ได้กำหนดหัวข้อการประกวดคือ “Science Around Us” วิทยาศาสตร์รอบตัว เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจวิทยาศาสตร์รอบตัวและเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์เข้ากับทุกเรื่องราว โดยเล่าผ่านรูปแบบของภาพยนตร์สั้น ซึ่งได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน มีการร้อยเรียงเรื่องราว สอดแทรกวิทยาศาสตร์ และนำเสนอในหลากหลายรูปแบบตามจินตนาการ ในแบบฉบับของตนเอง อย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น แนวแอคชั่น แนวดราม่า แนวคอมเมดี้ หรือแนวอื่นๆโดยไม่จำกัดแนวทาง ตลอดเวลา 8 - 10 นาที

IMG 4484 800x533

นางกรรณิการ์ วงศ์ทองศิริ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า การสื่อสารเรื่องราวเกี่ยวกับวิทยาศาตร์ และเทคโนโลยีอย่างแพร่หลายและทั่วถึง สร้างความตระหนักในความสำคัญของวิทยาศาสตร์ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ความรู้เกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ล้วนอยู่รอบตัวเรา หากได้มีการศึกษาและพัฒนา ความรู้เหล่านั้น ก็สามารถทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆตามมาได้อีกมากมาย และเพื่อเป็นการส่งต่อความรู้อย่างสร้างสรรค์ จึงคิดว่า “เรื่องวิทย์หลังเลนส์” Science Behind the Scene หรือการเล่าเรื่องวิทยาศาสตร์ ผ่านภาพยนตร์สั้น สามารถเข้าถึงคนทุกวัย ดูง่าย เข้าใจง่าย เพื่อเป็นการจุดประกายให้คนทั่วไป หันมาสนใจวิทยาศาสตร์มากขึ้น

IMG 4494 800x533

คุณศุลีพร ปฐมนุพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักรายการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพ สาธารณะแห่งประเทศไทย (Thai PBS) ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเผยแพร่ความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ ให้กระจายไปในวงกว้าง ได้กล่าวถึงโครงการประกวดภาพยนตร์สั้นนี้ว่า เป็นโครงการที่ได้รับความสนใจ เป็นอย่างมาก เพราะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปทั้งรุ่นเล็ก (ระดับมัธยมศึกษา), รุ่นกลาง (ระดับอุดมศึกษา) และรุ่นใหญ่ (ประชาชนทั่วไป) ได้มีส่วนร่วมในการส่งผลงานเข้ามาประกวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่ 3 นี้ ยังเพิ่มความเข้มข้นในกระบวนการผลิตภาพยนตร์ให้มากขึ้น โดยได้เชิญ ผู้กำกับมืออาชีพ 5 ท่าน ได้แก่ คุณเชิดพงษ์ เหล่ายนตร์, คุณชาติชาย เกษนัส, คุณเมษ ยิ้มสมบูรณ์, คุณพรรณพันธ์ ทรงขำ และ คุณปวิตร ตรีเมฆ ซึ่งทั้ง 5 ท่านจะได้ร่วมสร้างสรรค์ภาพยนตร์สั้น วิทยาศาสตร์ และเป็นพี่เลี้ยงให้กับเยาวชนที่เข้าร่วมในโครงการนี้ด้วย

IMG 4499 800x533

“ทุกชีวิตมีเรื่องราว ทุกเรื่องราวมีวิทยาศาสตร์ มาเล่าเรื่องวิทยาศาสตร์ผ่านหนังสั้นกันเถอะ” สำหรับผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าร่วมการประกวด โครงการประกวดภาพยนตร์สั้นวิทยาศาสตร์ ปีที่ 3 “Short Science Film #3” ภายใต้หัวข้อ “Science Around Us” วิทยาศาสตร์รอบตัว สามารถติดตามข่าวสาร และดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่
- www.shortsciencefilm.com 
- Facebook : www.facebook.com/shortsciencefilm.tpbs.nsm

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จัดโครงการ เสวนาวิชาการ เรื่อง "ท่องโลกกาลเวลาตามหายักษ์ใหญ่ใต้ทะเล" (Diving with Sea Monsters: From Past to Present) ขึ้น เพื่อเผยแพร่และส่งเสริมความรู้ทางวิชาการด้านบรรพชีวินวิทยาสัตว์มีกระดูกสันหลังซึ่งสอดคล้องกับเนื้อหาในนิทรรศการยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึก (Monsters of the Sea) ที่ถูกจัดแสดงภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2560 นี้  โดยการเสวนา จะพาคุณย้อนอดีตไปเรียนรู้เรื่องราวของวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ที่อาศัยอยู่ในทะเลนับตั้งแต่ ปลาโบราณที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 400 ล้านปีก่อน  ศึกษาวิธีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของสิ่งชีวิต และการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ใต้ท้องทะเลลึก โดยกิจกรรมเสวนา ดังกล่าวจะจัดขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2560 เวลา 13.00 - 16.00 น.  ณ ห้อง Phoenix I ศูนย์จัดแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี

*ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลด กำหนดการและสำรองที่นั่ง ที่ลิงค์ด้านล่าง

กรุณาส่งแบบตอบรับสำรองที่นั่ง ไปยังโทรสารหมายเลข 0-2577-9991 
หรือ E-mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ภายใน วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม 2560
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : อพวช. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา 0-2577-9999 ต่อ 1501

 

Poster Art gallery 424 600

“The Land Happiness” ”แรงบันดาลใจ" หนังสั้นเรื่องราวของ พ่อผู้ซึ่งทำทุกอย่างเพื่อลูก


เรื่องย่อ


"พร" หนุ่มวัยกลางคน อาชีพขับวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง มีลูกชายชื่อ "โก้" เด็กนักเรียนชั้น ป.6 อาศัยในบ้านหลังเล็กๆกัน 2 คน หลังจากภรรยาได้เสียชีวิต "พร" และ"โก้" ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายด้วยความพอเพียง

วันหนึง สองคนพ่อลูก พากันไปเดินเที่ยวเล่นและไปพบโมเดลยานอวกาศ ซึ่งเป็นของเล่น "โก้" จึงรบเร้าให้ "พร" ซื้อให้ เพราะ "โก้" มีความใฝ่ฝันว่าในอนาคตอยากเป็นนักบินอวกาศ "พร" จึงตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินซื้อยานอวกาศให้ "โก้" เพื่อเป็นของขวัญวันเกิด

ขณะที่ "พร" รอรับ "โก้" กลับบ้านจากโรงเรียน อยู่นั้น "พร" ได้เห็นคนอื่นพูดถึงว่ามีคนยื่นแจกแผ่นพับโฆษณาเชิญชวนเที่ยวพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ "พร" เกิดความสนใจและลังเลว่าจะซื้อยานอวกาศหรือพา "โก้" ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ดี..."พร"จะตัดสินใจอย่างไร?

สำหรับหนังสั้น เรื่อง The Land Happiness เป็นผลงานของทีม Art Gallery นักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ จากการประกวดหนังสั้น สนุกมหัศจรรย์ ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และมหาวิทยาลัย Saitama University ประเทศญี่ปุ่น จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “STEM-Robotics workshop” ขึ้น เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนจากประเทศไทย อินเดีย และประเทศญี่ปุ่น ได้เรียนรู้แบบบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM Education) ผ่านการทำกิจกรรมพัฒนาหุ่นยนต์ โดยมี Dr.Tairo NOMURA Director, STEM Education Research Center และคณะจาก Saitama University เป็นร่วมเป็นวิทยากร เมื่อวันที่ 8 -14 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ณ อพวช. คลองห้า ปทุมธานี

 

IMG4204800533
IMG4199800533
IMG4197800533
IMG4193800533
IMG4194800533
IMG4195800533

04 SAMPAYANG POSTER 400 600

เรื่องย่อ

เรื่องราวของ “วิวัฒน์” วิศวกร ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นหนึ่งในวิศวกรชั้นนำของประเทศ แถมยังมีไอเดีย ด้านวิทยาศาสตร์แบบล้ำเลิศ “วิวัฒน์” จึงวาดฝันและขีดเส้นให้ “ปันๆ” ลูกชายคนเดียวสุดแสบ เดินตามรอยแบบแผนที่วางเอาไว้ เพื่อให้เหมือนตัวเอง แต่กลับเป็นเรื่องไม่ง่าย เพราะ “ปันๆ” มีความหลงใหลและหลงรักในเสียงดนตรี เป็นอย่างมาก“วิวัฒน์” จึงพยายามหาหนทางชักจูง "ปันๆ" ให้มาสนใจในสิ่งที่ตัวเองฝันไว้ เรื่องราววุ่นๆ จึงเกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์..."วิวัฒน์" จะทำให้ ”ปันๆ”เป็นเหมือนตัวเองได้หรือไม่

สำหรับ เรื่อง“The Scientist พ่อผมเป็นนักวิทยาศาสตร์“ เป็นผลงานของทีม SAMPAYANG จากนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่คว้ารางวัลที่ 2 จากการประกวดหนังสั้น สนุกมหัศจรรย์ ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์

 

https://youtu.be/BM_g3PznO2U

 

3 สิงหาคม 2560 - รร.พูลแมน คิงพาวเวอร์ (รางน้ำ) / ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในการแถลงข่าวความพร้อมการจัดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2560” (National Science and Technology Fair Thailand 2017) ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม” ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการแห่งปี รวมสุดยอดนิทรรศการ กิจกรรม งานวิจัย และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจัดแสดงบนพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ณ ฮอลล์ 2-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 17-27 สิงหาคม 2560 คาดมีผู้เข้าชมงานที่เป็นทั้งเด็ก เยาวชน ครอบครัว และประชาชนทั่วไปทั้งคนไทยและชาวต่างชาติกว่า 1.2 ล้านคน

               ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2560 จัดขึ้นเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะทรงเป็น “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะทรงเป็น “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ ”พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” อีกทั้ง ในปีนี้ยังมีแนวคิดเพื่อสื่อสารถึงความสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป้าหมายการพัฒนาประเทศเข้าสู่ Thailand 4.0 เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ Sustainable Development Goals (SDGs) และเพื่อร่วมฉลองวาระสำคัญทางวิทยาศาสตร์ในโอกาสที่องค์การสหประชาชาติ (UNESCO) มีมติให้ปี 2560 เป็น “ปีสากลแห่งการท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” หรือ “2017 International Year of Sustainable Tourism for Development” ซึ่งเป็นหนึ่งในการสนับสนุนเป้าหมายของ SDGs อีกด้วย มหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ จึงถือเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีของประเทศและภูมิภาคเอเชีย ในการแสดงผลงานความก้าวหน้าและศักยภาพทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมด้วยศักยภาพของนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ของไทยและต่างประเทศ รูปแบบของกิจกรรมในงานคล้ายเทศกาลวิทยาศาสตร์ (Science Festival) ในหลายประเทศ คือประกอบด้วย การจัดนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในรูปแบบทันสมัย มีความเป็นสากล เปิดโอกาสให้ ผู้เข้าชมมีส่วนร่วม (Interactive Exhibition) โดยเน้นหัวข้อที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วย New S-curve มุ่งสู่ Thailand 4.0 รวมทั้งได้มีการนำแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องสะเต็มศึกษา (STEM Education) มาใช้ในการจัดกิจกรรมในรูปแบบ เล่น-เรียน-รู้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม ในประเด็นการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และส่งเสริมการสร้างกิจกรรมภายในครอบครัว ภายใต้กรอบแนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม” โดยในปีนี้เป็นการผนึกกำลังร่วมกันของ 10 กระทรวง มากกว่า 100 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน และปีนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างประเทศ 7 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ เพื่อกระตุ้นความสนใจแก่นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนที่จะต้องเติบโตและเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในวันข้างหน้า รวมถึงการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

IMG 2732 800x533

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวเสริมถึงความยิ่งใหญ่ของงานในครั้งนี้ว่า ภายในงานประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมถึง 5 โซน มากมายองค์ความรู้ให้ทุกคนได้เข้าไปมีส่วนร่วม ตั้งแต่นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ, นิทรรศกลางที่นำเสนอประเด็นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่กำลังอยู่ในความสนใจของประชาชน หรือมีความสำคัญ มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการพัฒนาประเทศในอนาคต, กิจกรรมวิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตในแนวทางสะเต็มศึกษา, นิทรรศการแสดงศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทย การประกวดและแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ การประชุม สัมมนา และการแสดงสินค้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมการนำเอาเทคโนโลยีและมัลติมีเดียใหม่ ๆ มาใช้ในการจัดแสดง เพื่อสร้างประสบการณ์ เปิดมุมมองการเรียนรู้ผ่านสื่อ Interactive พร้อมด้วยนิทรรศการรูปแบบ 4D Simulator ที่มาช่วยเติมความสุข สนุกสนาน และเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ 
มหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้ ได้มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับปรุงรูปแบบการจัดแสดงนิทรรศการให้มีความทันสมัย มีความเป็นสากล และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มกิจกรรมสำหรับทุกเพศทุกวัยให้ได้ร่วมสนุกและทดลอง สำหรับนิทรรศการที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ (Royal Pavilion) นำเสนอพระวิสัยทัศน์และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และนำเสนอพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย และ พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” รวมทั้ง นำเสนอพระอัจฉริยภาพของพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ทรงมีบทบาทและให้ความสำคัญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


               ดร.อรรชกาฯ กล่าวแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า นิทรรศการหลัก ที่มีการนำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศเข้าสู่ Thailand 4.0 รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ Sustainable Development Goals (SDGs) และปีสากลแห่งการท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน อาทิ นิทรรศการนวัตกรรมพลังงาน (Innovation Energy) เข้าใจพื้นฐานพลังงาน วิวัฒนาการพลังงานความร้อน รู้จักกับแหล่งพลังงานในโลกและพลังงานหมุนเวียน เพื่อช่วยกันอนุรักษ์แหล่งพลังงานธรรมชาติและแก้ปัญหาวิกฤตพลังงาน ชมนวัตกรรมพลังงานที่ต่อยอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการได้มาซึ่งพลังงานทางเลือกที่เพิ่มขึ้น พบกับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ทางเลือกใหม่ของวินมอเตอร์ไซค์ โดยผลงาน Start up นิทรรศการท่องเที่ยวยั่งยืน (International Year of Sustainable Tourism) สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองไทยกับภาพยนตร์ในรูปแบบ 4D Simulator และเทคนิค 4D Effect สมจริงสนุกสนานที่ทุกคนรอคอย...โดยจะมียายพิกุล และหลานบุญมา สองช้างยายหลานที่อาสาพาผู้ชมไป ชื่นชมกับความสมบูรณ์และคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติการท่องเที่ยวไทยผ่านมุมมองใหม่ที่จะสนับสนุนให้การท่องเที่ยวยั่งยืนต่อไป พร้อมเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ พบความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมโบราณที่บรรพบุรุษชาวไทยได้สร้าง ที่แม้แต่องค์กรระดับโลกอย่าง UNESCO ยังให้การยอมรับและขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก นิทรรศการนวัตกรรมอาหารและการเกษตร (Agriculture and Food Innovation) พบกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็วมากขึ้น เพื่อเป็นการรองรับประชากรโลกที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในปี ค.ศ. 2050 ชม Smart Farmer’s House ระบบการเกษตรแม่นยำสูง แนวทางการทำการเกษตรแนวตั้ง เกษตรครัวเรือน ชมนวัตกรรมด้านอาหารที่ทำให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก เป็นต้น


               นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการที่ให้ความรู้ความเข้าใจและสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นในสังคม และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันทั้งในปัจจุบันและอนาคต อาทิ นิทรรศการยุคมนุษย์ครองโลก (Anthropocene) การใช้ทรัพยากรเกินจำเป็นแบบไม่จบสิ้นจนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ อาจทำให้การสูญพันธุ์กลับมาอีกครั้ง นิทรรศการนี้จะพาทุกคนเข้าสู่ยุค “มนุษย์กำหนดอนาคตโลก” ร่วมกับตระหนักถึงปัญหาและร่วมกันหาทางออกแห่งอนาคตด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่จะมาปรับให้มนุษย์และธรรมชาติอยู่ด้วยกันต่อไปได้อย่างยั่งยืน พร้อมสนุกไปกับบันไดยักษ์ Carbon Playground เรียนรู้วิวัฒนาการของ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน ลองหา Carbon Footprint จาก Lifestyle ของคุณเอง แล้วตัดสินใจว่าอนาคตคุณจะปกป้องโลกได้อย่างไร นิทรรศการสูงวัยใกล้ตัว (Aging Society) พบกับเมืองจำลองสูงวัย ใคร ๆ ก็ต้องเจอ เข้าสู่ “เมืองเพิ่มอายุ” ที่จะทำให้ผู้เข้าชมสัมผัสประสบการณ์สูงวัย ทดลองเป็นผู้สูงวัยด้วยอุปกรณ์และฐานจำลอง 5 ฐาน เพื่อความเข้าใจผู้สูงวัยมากขึ้น และเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ผู้สูงวัยในอนาคตที่ทุกคนต้องเจอ สนุกกับเมืองอัจฉริยะแสนสุขสำหรับทุกช่วงวัย ในรูปแบบเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงวัยกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม นิทรรศการ Miracle of Science : สารพัดพิษ ที่นำเสนอในรูปแบบ Fantasy ดินแดนสารพัดพิษที่ปกคลุมด้วยไอหมอกแห่งความลึกลับกับเหล่าพืชพิษและสัตว์พิษที่ซ่อนเร้น และแฝงด้วยอันตรายในทุกย่างก้าว มาเรียนรู้เรื่องพิษที่มีโทษต่อมนุษย์ ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้พิษเหล่านั้นมาสร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์ได้ในคราวเดียวกัน สนุกสนานกับละครและนิทานหรรษานานาพิษ ชมสัตว์ พืช แมลง ดอกไม้พิษชนิดต่าง ๆ และรู้จักว่าพิษของมันมาจากไหน นิทรรศการยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึก (Monsters of The Sea) ที่จะนำผู้เข้าชมเดินทางไปในมหาสมุทรใต้ท้องทะเลลึก ตื่นตาตื่นใจไปกับสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์โบราณที่เป็นจ้าวทะเลลึกในยุค Mesozoic ซึ่งเป็นยุคเดียวกับไดโนเสาร์ ที่มีความยาวมากถึง 5-10 เมตร ด้วยเทคนิคการแสดง Animatronics ที่เลียนแบบการเคลื่อนไหวในชีวิตจริง ก่อนนำไปจัดแสดงอย่างเต็มรูปแบบที่ อพวช. คลองห้า จ.ปทุมธานี เร็ว ๆ นี้ อาทิ เพลซิโอซอรัส’ (Plesiosaurus) ตำนานต้นฉบับของเนสซีแห่งทะเลสาปล็อคเนสส์ ที่มาพร้อมกับ ‘เมกาโลดอน’ (Megalodon) ฉลามยักษ์ฟันโตขนาดเท่าฝ่ามือ เรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการ การปรับตัว และการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ในท้องทะเล ตลอดจนสาเหตุของการสูญพันธุ์ ยิ่งไปกว่านั้นภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมสำหรับเยาวชน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการเรียนรู้ในแนวทาง STEM Education ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์และต่อยอดสู่อาชีพที่เกี่ยวข้องกับ วทน. ได้แก่ ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ลานกิจกรรมพัฒนาปัญญาเยาว์ ลานกิจกรรมประกวดแข่งขัน ห้องฉายภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ เป็นต้น

IMG 3108 800x533

ศ.นพ. สรนิต ยังกล่าวเสริมอีกว่า นอกจากนิทรรศการหลักแล้ว ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนอีกมากมายที่มาร่วมกันเนรมิตพื้นที่ 40,000 ตารางเมตรของงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ให้ยิ่งใหญ่อลังการ อย่างในวันแถลงข่าวนี้ก็มีตัวอย่างนิทรรศการจากหลายหน่วยงานมาร่วมจัดแสดง อาทิ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) นำเสนอตัวอย่างนิทรรศการ ชวนท่อง “อาณาจักรดาวเสาร์” จับตาภารกิจสำคัญ “ฉากสุดท้ายของยานแคสสินี : วีรบุรุษแห่งดาวเสาร์” ซึ่งจะโคจรเข้าสู่ชั้นบรรยากาศชั้นบนของดาวเสาร์ในวันที่ 15 กันยายน 2560 เพื่อเผาไหม้ตัวเอง พร้อมกับปิดฉากภารกิจการสำรวจของยานลำนี้อย่างสมบูรณ์, สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำกิจกรรมไฟฉายจากหลอดแอลอีดี และวงจรไฟกระพริบ มาให้เยาวชนทดลองลงมือทำตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนกระทั่งพร้อมการใช้งาน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจ และเป็นการให้ความรู้พื้นฐานด้านอิเล็กทรอนิกส์แก่เยาวชน เป็นตัวอย่างในการประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์อย่างง่าย เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้และทำความเข้าใจถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น ที่ใช้เวลาน้อย และสามารถลงมือทำได้ด้วยตนเอง, สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (วว.) นำเสนอผลงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฝากของที่ระลึกด้วย วทน. ในพื้นที่พิเศษจังหวัดเลย ภายใต้ความร่วมมือกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้แก่ มะพร้าวอ่อนแก้วตราเคียงเลย ขนมปังขาไก่จากกล้วยน้ำว้า ตรา บานานาแฟมิลี่ และสบู่กาแฟ ตรา คอฟฟี่ เป็นต้น ด้านกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) นำกิจกรรมเรียนรู้การทดลองทำภาพ 3 มิติ ด้วยเทคนิคฮอโลแกรม Pyramid Halogram Screen จากแผ่นพลาสติก แสดงความแตกต่างระหว่างภาพถ่ายธรรมดา (Photograph) และภาพ ฮอโลแกรม (Hologram) เยาวชนจะได้เรียนรู้คุณสมบัติการสะท้อนแสงของวัสดุพลาสติก 

IMG 3219 800x533

 ในส่วนของนิทรรศการหลัก ได้นำตัวอย่างจัดแสดงจาก 3 นิทรรศการมาแสดงให้ดูเช่นกัน อาทิ นิทรรศการ Maker Space จากสิ่งประดิษฐ์ สู่วิถีคิดนวัตกรรม แสดงตัวอย่างของสิ่งประดิษฐ์พิชิตปัญหา โดยการนำวัสดุที่มีอยู่ วัสดุเหลือใช้ หรือวัสดุรีไซเคิลมาสร้างสิ่งประดิษฐ์เพื่อการช่วยเหลือทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ อาทิ กระดาษลัง, โฟม, ขวดน้ำดื่ม, ตะเกียบ, หนังยาง, เศษวัสดุเหลือใช้, ส่วนนิทรรศการ Miracle of Science : สารพัดพิษ จัดแสดงตัวอย่างพืชและสัตว์มีพิษมาให้ชม เช่น แมงกะพรุนกล่องและแมงกะพรุนหมวกโปรตุเกส ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง, มดกระสุนปืน มดที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลกจากป่าอะเมซอนที่สามารถกัดคนตายได้ เป็นต้น รวมทั้ง ชมตัวอย่างอุปกรณ์ให้เยาวชนทดลองเป็น ผู้สูงวัยจากนิทรรศการสูงวัยใกล้ตัว เช่น เครื่อง Ossiloscope เครื่องมือวัดสัญญาณไฟฟ้า การวัดความถี่ วัดเฟสของสัญญาณ, โมเดลสมอง, โมเดลกระเพาะปัสสาวะ, โมเดลกระดูกพรุน และหุ่นยนต์เสริมการเรียนรู้ AIM Robot โดยภาควิชา วิศวชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือให้แก่ครู ผู้ปกครองหรือผู้ที่สนใจในการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กทั้งเด็กปกติและเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ซึ่งหุ่นยนต์สามารถนำไปใช้เสริมการสอนในรายวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ทักษะชีวิต และการฝึกพูดแก่เด็ก ๆ เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว ยังมีหน่วยงานร่วมจัดจากภาครัฐและเอกชนมาร่วมจัดแสดงในครั้งนี้ อาทิ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา จัดแสดงนิทรรศการ “ทุกชีวิตมีคุณค่า จะดำรงรักษาอย่างไรให้คงอยู่” ตัวอย่างแมงกะพรุนดอง, ฟองน้ำหูช้าง และหอยจิ๋ว เป็นต้น, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จัดแสดงผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและเครื่องสำอางจากพืชสมุนไพร อาทิ เครื่องสำอางจากสารสกัดถั่วหรั่ง, มาส์กว่านหางจระเข้ผสมสารสกัดว่านตาลเดี่ยว เป็นต้น ส่วน บริติช เคานซิล นำเสนอโครงการ “ทูตสะเต็ม” (STEM Ambassador) เพื่อถ่ายทอดความรู้ ให้คำแนะนำ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน สร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักเรียนได้เห็นประโยชน์ของการนำความรู้ในวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ไปใช้ในบริบทของชีวิตจริงและการประกอบอาชีพ นอกจากนี้ ยังมีสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ที่มานำเสนอเกี่ยวกับการเรียนรู้กระบวนการวิศวกรรมด้วย Quaker Robot เป็นต้น

IMG 2829 1200x800

 ด้านนางกรรณิการ์ วงศ์ทองศิริ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่เป็นแม่งานสำคัญในการดำเนินการจัดงานในครั้งนี้ กล่าวถึงความพร้อมในการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ปีนี้ว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ให้ความสำคัญในการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ นี้มาก โดยเน้นให้มีความยิ่งใหญ่อลังการกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทั้งพื้นที่การจัดแสดงที่จัดเต็มทั่วทั้งฮอลล์ 2-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และเป็นงานวิทยาศาสตร์ที่จัดนานที่สุด ที่สำคัญยังมีผู้เข้าชมมากกว่า 1 ล้านคนในทุก ๆ ปี ซึ่ง อพวช. ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรองรับ ผู้เข้าชมจำนวนมาก โดยมีการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อความสมบูรณ์พร้อมในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านสถานที่ ระบบสาธารณูปโภค ระบบการจราจร การบริการรถรับ-ส่ง การปฐมพยาบาล การรักษาความปลอดภัย การบริการต้อนรับ ร้านค้า ร้านอาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในการดูแลต้อนรับและอำนวยความสะดวกผู้เข้าชมงานที่คาดว่าปีนี้จะมีมากถึงกว่า 1.2 ล้านคน

IMG 3273 800x533

นอกจากนี้ ยังมี 2 ดาราดังพรีเซ็นเตอร์ของงาน เก้า จิรายุ ละอองมณี และน้องมายด์ ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล ซึ่งได้มาร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย โดย เก้า จิรายุ กล่าวว่า “จริงๆ แล้ว ตนเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ นี้มา 3 ครั้งแล้ว ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ทุกครั้งที่มาเดินชมงานรู้สึกชื่นชอบ สนุกและได้ความรู้มาก ที่สำคัญรู้สึกประทับใจในความทุ่มเทของผู้จัดงานที่ช่วยกันเนรมิตทุกบูธนิทรรศการและกิจกรรมที่นำมาจัดแสดงได้อย่างน่าชื่นชมมาก และในปีนี้ก็เช่นเดียวกันที่ทุกคนจะได้พบกับเรื่องราวของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่น่าสนใจมากมาย โดยส่วนตัวแล้วสนใจนิทรรศการ Maker Space จากสิ่งประดิษฐ์ สู่วิถีคิดนวัตกรรม ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในยุคปัจจุบันเพื่อปลดปล่อยจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ ปลุกความเป็นนักคิด นักสร้างสรรค์นวัตกรรม หรือ "เมกเกอร์" (Maker) พบกับ Maker’s Showcase หุ่นยนต์กู้ภัย ชมผลงานจาก Maker Community มาร่วมกันฝึกทักษะการเป็น Maker จากความคิดสร้างสรรค์ ไปสู่การลงมือทำ กิจกรรม Kid Maker, Maker Studio ชมสาธิต 3D Printing และห้ามพลาดกับการแข่งขันบังคับ Drone หุ่นยนต์ Mindstrom เพื่อผ่านอุปสรรคในการปฏิบัติภารกิจท่ามกลางภาวะฉุกเฉิน”

               ด้านน้องมายด์ ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล อีกหนึ่งพรีเซ็นเตอร์คนดัง กล่าวว่า สำหรับมายด์มีความชื่นชอบในวิชาวิทยาศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยิ่งได้รับเกียรติให้เป็นพรีเซนเตอร์ของงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้ ซึ่งเป็นศูนย์รวมแห่งองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีเช่นนี้ ก็ยิ่งรู้สึกยินดีมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยส่วนตัวในฐานะคนรุ่นใหม่อยากจะแนะนำนิทรรศการโลกดิจิทัล (Digital World) ที่จะทำให้เราตื่นตาตื่นใจไปกับเทคโนโลยีที่ทำให้กระแสของโลกเปลี่ยนแปลง อาทิ Lot (Internet of Things), Clould Technology, Big Data, Autonpmous, 3D Printing, VR, AR เป็นต้น พร้อมกันนี้เรายังจะได้สัมผัสโลกแห่งอนาคตกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเรา อาทิ Smart Home Smart Education Smart Economy Smart Heath อีกด้วย

               ดร.อรรชกาฯ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่าขอเชิญชวนเยาวชนและประชาชนทุกท่านเข้าชมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2560 ที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 17-27 สิงหาคม 2560 เวลา 09.00-19.00 น. ณ ฮอลล์ 2-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมสนุกและเรียนรู้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ทุกคนสามารถเข้าชมได้อย่างเพลิดเพลิน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมและร่วมกิจกรรม


              ติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดงานได้ที่ www.thailandnstfair.com หรือ Facebook : มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ LINE ID: @thailandnstfair หรือ Instagram : Thailandnstfair หรือสอบถามข้อมูลที่ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โทร. 0 2577 9960 สื่อมวลชนสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โทร 0 2577 9999

 

 
กรอกอีเมลเพื่อติดตามข่าวสาร