th th
en

หนังสั้นสร้างจากชีวิตจริง
ซัน Shine จะถึงฝั่งฝันหรือไม่?

54866667 425x600

เรื่องย่อ
   “ซัน” เด็กชาย ใส่แว่นตากรอบหนา พกแว่นขยายอยู่ตลอดเวลา เพราะชื่นชอบทดลองทำสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก จนเพื่อนๆ ตั้งฉายาว่า ““ซันสติเฟื่อง” เพราะได้สายเลือดของผู้เป็น “พ่อ” ซึ่งเป็นครูสอนวิทยาศาสตร์ สองคนพ่อ-ลูก ชอบทดลองทำสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ต่างๆนานา เช่น การเป่าลูกโป่งด้วยเบคกิ้งโซดา การทำโทรศัพท์ จากแก้วน้ำพลาสติก การใช้แว่นขยายจุดไฟ ซึ่งการทดลองต่างๆ ล้วนแล้วมาจากวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น 
   ผู้เป็น”พ่อ” มองเห็น “ลูก” ที่ให้ความสนใจกับสิ่งประดิษฐ์ จึงพา “ซัน” ไปยังพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เพื่อให้ลูกเรียนรู้วิทยาศาสตร์ใหม่ๆ ทำให้ ”ซัน” สนุกเพลิดเพลินกับความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก “ซัน” อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งแบบพ่อ และอยากทำงานในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ขณะที่”พ่อ” พา “ซัน” ไปตั้งแคมป์ข้างนอก เพื่อให้เรียนรู้และใช้ชีวิตให้เอาตัวรอดด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ “ซัน” กับ “พ่อ” จะเอาตัวรอดจากการตั้งแคมป์ได้หรือไม่และด้วยวิธีใด “ซัน” ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์บ้าง อะไรเป็นแรงผลักดันที่ให้ทำในสิ่งที่ชอบและประสบความสำเร็จ...

   ทีม AD55 นักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี ให้เหตุผลที่ทำหนังสั้นเรื่องนี้ว่าสร้างมาจากเรื่องจริงของลูกชายอาจารย์ที่มีความสนิทสนม น้องชายคนนี้เป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องวิทยาศาสตร์ ชอบทดลอง จึงได้นำเรื่องราวในชีวิตจริง มาทำเป็นหนังสั้น เพื่อให้ผู้ชม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน มีกำลังใจในเรียนวิทยาศาสตร์ เพราะวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ยากอย่างทุกคนคิด การทดลองต่างๆ สามารถทำได้เองและสามารถนำใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก อีกทั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวล้วนเป็นสิ่งที่เกิดจากวิทยาศาสตร์แทบทั้งสิ้น

รายละเอียดกิจกรรม "The Research Show by Naturalist" ประจำเดือนตุลาคม 2560

พบกับนักธรรมชาติวิทยาด้านมด

33 All About Ant Nat.Wee Oct.17 424 600

วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2560
ในตอน All About Ant : เรียนรู้สู้อย่างมด
โดย Nat.วี (ดร.วียะวัฒนะ ใจตรง)

พบกับนักธรรมชาติวิทยาด้านสัตว์ป่า

34 Track and Trace Nat.Dome Oct.17 424 600

วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2560
ในตอน Track and Trace : ร่องรอยในรอยทาง
โดย Nat.โดม (โดม ประทุมทอง)

จัดกิจกรรมในเวลา 13.30 - 14.30 น. ณ ห้องการแสดงทางวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา รับจำนวน 60 คน
สนใจสำรองที่นั่งได้ที่ Facebook : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา

***หมายเหตุ กิจกรรมนี้สำหรับผู้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเท่านั้น*

Related items

 

        กรุงเทพฯ – 3 พฤศจิกายน 2560 – บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสถาบันคีนันแห่งเอเซีย สานต่อความสำเร็จโครงการ “Enjoy Science Careers: สนุกกับอาชีพวิทย์” สู่ปีที่ 2 เดินหน้าผลักดันและสร้าง แรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในการประกอบอาชีพในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือสะเต็ม ผ่านนิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟ ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนทั่วประเทศได้เรียนรู้ 10 อาชีพน่าสนใจในสาขาสะเต็ม ที่ไม่ซ้ำกับปีแรก พร้อมด้วยกิจกรรมทดสอบเชิงอาชีพและพบปะพูดคุยกับบุคคลต้นแบบของแต่ละอาชีพอย่างเป็นกันเอง เพื่อสร้างพลังคนในสาขาสะเต็ม อันเป็นรากฐานสำคัญของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลสู่เป้าหมาย โดยในปีนี้คาดว่าจะมีเยาวชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้กว่า 200,000 คน

  MG 8693 800x533

        รศ.นพ. สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า “ขณะที่ประเทศไทยกำลังเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล สู่ระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมความพร้อมเยาวชนรุ่นใหม่ให้มีความรู้และทักษะที่สอดคล้องกับการทำงานในศตวรรษที่ 21 และสอดรับกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่จะปรับเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จากภารกิจหลักของกระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศ เพื่อสร้างปัญญาในสังคม อันจะนำไปสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน การเดินหน้าสานต่อโครงการ ‘Enjoy Science Careers: สนุกกับอาชีพวิทย์’ สู่ปีที่ 2 โดยความร่วมมือกับองค์การภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ภายใต้แนวทาง ‘รัฐร่วมเอกชน’ ครั้งนี้ จะเป็นต้นแบบสำคัญในการร่วมกันผลักดันและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในการประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างความตระหนักทางด้านวิทยาศาสตร์อันจะนำไปสู่สังคมวิทยาศาสตร์ที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต”

 MG 8632 800x533

        ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เปิดเผยว่า “อาชีพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศในหลายๆ ด้าน ความต้องการบุคลากรที่มีความรู้และทักษะด้านสะเต็มจึงมีเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี ซึ่งการดำเนินโครงการ ‘Enjoy Science Careers: สนุกกับอาชีพวิทย์’ ร่วมกับเชฟรอนและสถาบันคีนันแห่งเอเซียในปีที่ผ่านมา ตลอดจนการจัดนิทรรศการในงานคาราวานวิทยาศาสตร์ อพวช.ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ดังนั้น ในปีนี้โครงการจึงได้คัดเลือกอาชีพที่น่าสนใจและสอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศไทยในยุค 4.0 ซึ่งอาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักอีก 10 อาชีพใหม่ ที่จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในอนาคต ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย วิศวกรระบบดาวเทียม วิศวกรหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ นักวิจัยวัสดุนาโน ผู้ดูแลสมรรถภาพนักกีฬา วิศวกรระบบราง วิศวกรเสียง เกษตรกรยุคใหม่ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และนักวิเคราะห์การลงทุน โดยเน้นให้เยาวชนได้เรียนรู้ผ่านนิทรรศการและกิจกรรม รวมถึงได้พบปะพูดคุยกับบุคคลต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนั้นๆ พร้อมสนุกและเรียนรู้ไปกับการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือของอาชีพต่างๆ ที่ใช้ในภาคปฏิบัติงานของจริง โดยมุ่งหวังว่าเมื่อเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมของนิทรรศการชุดนี้แล้ว จะมีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้นต่อไป”

 MG 8783 800x533

        คุณสิริวิมล ชื่นบาน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด หนึ่งในบุคคลต้นแบบทางอาชีพของโครงการ ‘สนุกกับอาชีพวิทย์ ปี 2’ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเรียนรู้ในสาขาสะเต็มสามารถนำไปใช้ต่อยอดในการประกอบอาชีพได้อย่างหลากหลาย หนึ่งในนั้นคืออาชีพผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย ซึ่งมีแนวโน้มเป็นที่ต้องการมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เครื่องจักรหรือสารเคมีในการผลิต ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นก็จะส่งผลกระทบทั้งต่อผู้ปฏิบัติงาน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม อาชีพนี้จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลความปลอดภัยของเพื่อนพนักงาน ตลอดจนสิ่งแวดล้อม และชุมชน ด้วยการประเมินอันตรายจากการทำงาน กำหนดระบบการจัดการ และควบคุมมาตรฐานในการป้องกันที่เหมาะสม ตลอดจนรับรองความปลอดภัยให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นอาชีพที่สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทั้งยังมีโอกาสของความก้าวหน้าทางการงานที่เท่าเทียม โดยหัวใจสำคัญแห่งความสำเร็จของอาชีพนี้คือความสามารถในการบูรณาการองค์ความรู้ด้านต่างๆ เพื่อคิดวิเคราะห์ วางแผน และป้องกันอันตรายจากการทำงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

 MG 8753 800x533

 MG 8659 800x533

        คุณอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “นิทรรศการ ‘Enjoy Science Careers: สนุกกับอาชีพวิทย์’ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต’ โครงการระยะยาว 5 ปี ตามแนวทาง ‘รัฐร่วมเอกชน’ ของรัฐบาล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศผ่านการพัฒนาการศึกษาในสาขาสะเต็มทั้งสายสามัญและสายอาชีพ ครอบคลุมทั่วประเทศ โดย Enjoy Science Careers จะเปิดโอกาสให้เยาวชนได้รู้จักกับอาชีพในสาขาสะเต็ม ได้เห็นว่าการเรียนในสาขาสะเต็มมีเส้นทางสายอาชีพที่มากมายและเปิดกว้าง เกิดเป็นแรงบันดาลใจที่จะศึกษาต่อและประกอบอาชีพสะเต็มในสาขานี้ต่อไปในอนาคต เพื่อสร้างพลังคนในสาขาสะเต็มที่มีคุณภาพ อันเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล โดยในปีแรก โครงการ Enjoy Science Careers ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดยได้เดินทางร่วมกับคาราวานวิทยาศาสตร์ อพวช. สร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนไปแล้วกว่า 290,000 คน และในปีที่สองนี้คาดว่าจะมีเยาวชนได้รับผลประโยชน์อีกกว่า 200,000 คน”

 MG 9058 800x533

 MG 9000 800x533

        นิทรรศการ “Enjoy Science Careers Year 2: สนุกกับอาชีพวิทย์” ปี 2 เปิดตัวและจัดแสดงครั้งแรกในระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายน 2560 ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. ณ ศูนย์การค้า The Street รัชดา โดยเปิดให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปในกรุงเทพมหานครเข้าร่วมกิจกรรมฟรี พร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมาย หลังจากนั้น ชุดนิทรรศการของโครงการ Enjoy Science Careers Year 2: สนุกกับอาชีพวิทย์” ปี 2 จะนำไปจัดแสดงร่วมกับ “คาราวานวิทยาศาสตร์” ของ อพวช. ที่จะเดินทางไปจัดกิจกรรมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยเริ่มแรกที่จังหวัดสกลนคร ผู้สนใจสามารถสามารถตรวจสอบตารางกิจกรรมหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.enjoy-science.org www.nsm.or.th และเพจเฟซบุ๊ก Enjoy Science Careers

Image Gallery

MG9078800x533
MG9005800x533
MG9012800x533
MG8920800x533
MG8982800x533
MG8556800x533
MG8815800x533
MG8535800x533
MG8483800x533

   องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมผนึกกำลัง กับ บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) สนับสนุนการจัดงาน EDUCA 2017 หรือ "มหกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู ครั้งที่ 10" ภายใต้แนวคิด "Education 1.0, 2.0, 3.0, 4.0 : From Policy to Classroom" หวังส่งเสริมครูไทยพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง พร้อมความร่วมมือจากภาครัฐและสถาบันการศึกษาชั้นนำมากมาย ในระหว่างวันที่ 16 - 18 ตุลาคม นี้ ณ อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี โดยได้จัดพิธีแถลงข่าว พร้อมการเสวนา เรื่อง "การศึกษา คือ อนาคตของเรา...จากนโยบายสู่ห้องเรียน 10 ปี ของ EDUCA" โดยมี นางกรรณิการ์ เฉิน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ อพวช. (คนที่ 2 จากซ้าย) ร่วมแถลงข่าวและการเสวนาดังกล่าว ฯ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ

Image Gallery

IMG2104002800x538
IMG2089002800x533
IMG2077002800x533

รายละเอียดกิจกรรม "The Research Show by Naturalist" ประจำเดือนกันยายน 2560

พบกับนักธรรมชาติวิทยาด้านสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก

30 The Conqueror of Venom Nat.Chai Sep17 424 600

วันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2560
ในตอน The Conqueror of Venom : ผู้พิชิตพิษร้าย
โดย Nat.ชัย(สัญชัย เมฆฉาย)

พบกับนักธรรมชาติวิทยาทางทะเล

31 The Star Signature Nat.Meaw Sep17 424 600

วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2560
ในตอน The Star Signature : เสน่หาห้าแฉก
โดย Nat.เหมียว(ดร.อารมณ์ มุจรินทร์)

พบกับนักภัณฑารักษ์แมลง

32 Bugs in the Box Nat.Puk Sep17 424 600

วันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2560
ในตอน Bug in the Box : พิทักษ์รักษ์แมลง
โดย Nat.ปุ๊ก(ปัณฑารีย์ สุวรรณลาภเจริญ)

จัดกิจกรรมในเวลา 13.30 - 14.30 น. ณ ห้องการแสดงทางวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา/จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. สามย่าน 
สนใจสำรองที่นั่งได้ที่ Facebook : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา

 

The Future Starts Today
ความสำเร็จในวันหน้า มาจากกล้าเริ่มต้นวันนี้

FFU025

เรื่องย่อ

   ใครจะรู้ว่า “เด็กหญิง(เกล)” ที่ชื่นชอบการเล่นเลียนแบบเป็นคุณหมอ โดยสมมุติให้พ่อและแม่ เป็นคนไข้ เพื่อให้”เด็กหญิงเกล” ทำการตรวจร่างกาย และจัดยาวิตามินซีให้พ่อกับแม่กิน หวังให้หายป่วย ตามจินตนาการของเด็กในขณะนั้น กระทั่งวันหนึ่ง “พ่อ” เกิดมีอาการป่วยขึ้นมาจริงๆ ในขณะที่”เด็กหญิงเกล” ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า”พ่อ” ป่วยจริง จน”แม่” ต้องแกล้งทำท่าทีและสอนวิธีให้การดูแลรักษา ”พ่อ” 
ปัจจุบัน ”เด็กหญิงเกล” กลายเป็น “คุณหมอเกล” ไปเรียบร้อยแล้ว “คุณหมอเกล” ย้อนหวนคิดถึงภาพในอดีต จนทำให้ “คุณหมอเกล” เดินจับมือพา ”พ่อ”กับ”แม่” ไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ “คุณหมอเกล” พา พ่อ”กับ”แม่” มาที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทำไม พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งนี้มีความสำคัญกับ “คุณหมอเกล” อย่างไร...

   The Future Starts Today เป็นผลงานของทีม แสนแสบ 2 นักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งทีมฯ ได้เห็นคำว่า The Future Starts Today ที่กำแพงของมหาวิทยาลัย จึงมีความคิดกันว่า หากเริ่มต้นทุกอย่างวันนี้เป็นต้นไปจะสามารถประสบความสำเร็จได้ หวังว่าผู้ปกครอง จะให้โอกาสและสนับสนุนลูกได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการหรือความฝันของตัวเอง เพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิต โดยมีครอบครัวสนับสนุน ร่วมกันทำกิจกรรม ด้วยการลงมือทดลองทำและเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว ขณะเดียวกันอยากให้ครอบครัว อยู่ด้วยกัน เพราะครอบครัวเป็นสถาบันแรก ที่จะสั่งสอนให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพที่ดีในอนาคต

เรื่อง 22 From Future

Poster 22 From Future Million Take 389x600

เรื่องย่อ

สังคมโลกในอนาคต จะสื่อสารผ่านภาษาอะไร?

   ในปี ค.ศ. 2090 “แอนนา” กำลังใช้เครื่องเคลื่อนย้ายมวลสาร แต่ดันเกิดขัดข้อง ทำให้ตัวเองหลุดมาในยุค ค.ศ.2017 กระทั่งเจอ “แมน” ชายหนุ่ม ที่เดินผ่านมา “แอนนา” รีบขอความช่วยเหลือ เพื่อให้ตัวเองกลับไปในยุคเดิม แต่ “แอนนา” กับ “แมน” คุยกันไม่รู้เรื่อง “แมน” จึงพา”แอนนา” มาที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ตึกสารสนเทศ เพื่อสอนให้เธอได้รู้จักกับภาษาของมนุษย์ยุคนี้ เพื่อจะสื่อสารกันได้

   ระหว่างที่อยู่ในยุค ค.ศ.2017 “แอนนา” ได้เรียนรู้และค้นพบความจริงว่ารู้สึกดีเวลาอยู่กับ “แมน” และมนุษย์ยุคนี้มีอิสระในการใช้ชีวิต มีการสื่อสารและเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจเรียนรู้อย่างเพลิดเพลิน แต่เครื่องเคลื่อนย้ายมวลสาร เกิดรีสตาร์ทเสร็จเรียบร้อยแล้ว “แอนนา” จะต้องกลับไปสู่ยุคเดิม…
”แอนนา” จะตัดสินใจอย่างไร จะกลับไปยุคเดิมหรือไม่ หรือจะอยู่ในยุคใหม่...

   ทีม Million Take จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม เล่าถึงที่มาของหนังสั้นว่า หากคนที่อยู่ในโลกอนาคต ย้อนเวลากลับมาสู่โลกปัจจุบันได้ จะเกิดอะไรขึ้น เพราะในอนาคตย่อมมีการเปลี่ยนแปลง จากในสมัยก่อนโทรศัพท์มือถือยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ส่วนใหญ่จะนิยมใช้เพจเจอร์ฝากข้อความสื่อสารกัน จากนั้นได้มีวิวัฒนาการพัฒนาการสื่อสาร เพื่อให้คนสามารถพูดคุยกันได้อย่างง่ายขึ้นแม้อยู่ไกลกัน เช่น การใช้โทรศัพท์ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ เฟสบุ๊ค เฟสไทม์ ซึ่งสามารถเห็นหน้าคู่สนทนาได้

“หนังสั้นเรื่องนี้จะสอดแทรกหลายด้าน โดยเฉพาะปัจจุบันคนไทย อยู่ในสังคมก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ ไม่พูดจากับคนรอบข้าง อีกทั้งการดูแลรักษาสภาวะสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานลดโลกร้อน”

เรื่อง REASON

 424 600

เรื่องย่อ

2พี่น้องมุ่งหน้าแข่งขัน ใฝ่ฝันเป็นวิทยาศาสตร์

   “บาส” เด็กหนุ่ม ผู้มีความฝันอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ขณะที่ “พี่ชาย” ก็อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์เช่นกัน แต่พี่น้องคู่นี้ไม่ลงรอย เพราะ “พี่ชาย” มองว่า “น้องชาย” เป็นคู่แข่ง คอยดูถูก คอยตอกย้ำ เพราะ “พี่ชาย” ชนะการแข่งขันทางวิชาการเสมอ ทำให้ “บาส” ตั้งใจเพื่อเอาชนะ “พี่ชาย” จึงมองข้ามไปว่าสิ่งที่ตัวเองอยากเป็นคืออะไร 
กระทั่ง “บาส” กลับไปยังพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อีกครั้ง และนึกถึงตอนเด็กว่ามีผู้หญิงพูดบางประโยค ทำให้ “บาส” ย้อนกลับมามองตัวเองว่าแท้จริงแล้วอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์...

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งนี้มีอะไร ที่ทำให้ “บาส” นึกขึ้นได้ว่าอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ และ “บาส” จะทำอย่างไร เพื่อให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ตามที่ตัวเองใฝ่ฝัน “บาส” จะเอาชนะ “พี่ชาย” ได้หรือไม่...

   หนังสั้น เรื่อง REASON เป็นผลงานของทีม Who do Studio นักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยที่มาของหนังสั้นเรื่องนี้ เพราะเป็นเห็นตึกธรรมชาติของพิพิธภัณฑ์ฯ จึงเห็นถึงความแตกต่าง ซึ่งความแตกต่างมีเหตุผลที่ไม่เหมือนกัน REASON เรื่องนี้สร้างเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าการมุ่งแต่เอาชนะจนลืมว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการที่แท้จริงคืออะไร และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ให้แง่คิดหรือมุมมองอะไรถึงทำให้กลับมานึกถึงความต้องการของตัวเอง อะไรที่ท้าทายผู้ชม ให้เกิดความคิดวิธีและแนวทางที่จะนำตัวเองไปสู่เป้าหมายจริงๆ โดยไม่เอาความคิดหรือทำเลียนแบบคนอื่น

   กลับมาอีกครั้ง กับ กิจกรรมค่ายวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ ตอน"ตะลุยทุ่งรังสิต" ในวันที่ 4 - 6 ตุลาคม 2560 พร้อมเปิดรับสมัครน้องๆเยาวชนตั้งแต่ระดับชั้น ป.5 - ม.1 จำนวน 80 คน มาร่วมเรียนรู้ ศึกษา และสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพ อาทิ แมลง นก ปลา หอย พืช สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ฟังการถ่ายทอดประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น กับนักธรรมชาติวิทยามืออาชีพ พร้อมให้เยาวชนฝึกทักษะในการเป็นนักธรรมชาติวิทยา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนต่อไปในอนาคต  

จองเข้าร่วมกิจกรรม (ดาวน์โหลดใบสมัครด้านล่าง)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักพัฒนาธุรกิจและการตลาด
โทร.0-2577-9999 ต่อ 2101,2123
โทรสาร 02577 - 9911
อีเมล์ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

Download attachments:

 

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จัดค่ายวิทยาศาสตร์แบบเช้าไปเย็นกลับ (One Day Camp) กิจกรรมยามว่างที่มีเนื้อหาสาระด้านวิทยาศาสตร์และความสนุกสนานครบเครื่อง ถึง 9 ค่าย 7 เรื่อง สำหรับน้อง ๆ ป.1 – ป.6 รับจำนวนจำกัด 35 คน ต่อค่ายเท่านั้น ในช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคมนี้

   21 กันายน 2560 / ปทุมธานี – นางกรรณิการ์ วงศ์ทองศิริ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เปิดเผยว่า อพวช. มีการจัดกิจกรรมค่ายเพื่อเสริมทักษะการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง และมีหลากหลายรูปแบบ สำหรับค่าย One Day Camp (เช้าไปเย็นกลับ) นั้น เหมาะสำหรับเด็กเล็กในระดับประถมศึกษา ป.1 – ป.6 ที่ยังไม่สามารถค้างแรมในสถานที่แปลกใหม่โดยไม่มีผู้ปกครองได้ แต่ต้องการเสริมสร้างทักษะนอกห้องเรียนในช่วงปิดเทอม พบปะพูดคุยกับเพื่อน ๆ ที่มีความชอบเหมือนกัน

18033454 1679997088682897 5876254229825959722 n

ซึ่งในช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ อพวช. จึงเปิดค่ายวิทยาศาสตร์ One Day Camp สำหรับน้อง ๆ ป.1 – ป.6 มากถึง 9 ค่าย รวม 7 เรื่องประกอบด้วย ค่าย One Day Camp ที่ อพวช. ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 5 ค่าย คือ

   “ค่ายนักดาราศาสตร์ตัวน้อย” ในอังคารที่ 3 ตุลาคม 2560 เรียนรู้เรื่องดวงดาว ระบบสุริยะ ความสำคัญของดวงจันทร์ และสำรวจท้องฟ้าด้วยแผนที่ดาว

   “ค่ายนักประดิษฐ์รุ่นจิ๋ว” ในศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2560 ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการสร้างสรรค์สิงค์ประดิษฐ์ด้วยอุปกรณ์ที่หาง่ายในชีวิตประจำวัน ด้วยกระบวนการ 4D : Deconstruction, Discovery, Design/Making, and Display

   “ค่ายเก็บแสงลงกระดาษ” ในวันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2560 เรียนรู้กระบวนการถ่ายภาพล้างภาพด้วยฟิล์ม และเทคโนโลยีการบันทึกภาพ

   “ค่ายสารพัดชั่ง” ในวันพุธที่ 11 ตุลาคม 2560 เรียนรู้วิวัฒนาการชั่ง ตวง วัด พร้อมทดลองประดิษฐ์อุปกรณ์ช่าง ตวง วัดด้วยตนเอง 

   “ค่ายหนูน้อยนักประดิษฐ์” ในวันพุธที่ 11 ตุลาคม 2560 เรียนรู้วิทยาศาสตร์จากสิ่งรอบตัวและสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ด้วยวิธีคิดแบบนักวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กเล็ก

18033870 1680000525349220 5436863275248981183 n

ค่าย One Day Camp ที่ จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. ชั้น 4 อาคารจัตุรัสจามจุรี สามย่าน กรุงเทพมหานคร 4 ค่าย 2 เรื่อง คือ

   “ค่ายมหัศจรรย์สัตว์โลก” ตอนศึกษานาคี ในวันที่ 4 และ 5 ตุลาคม 2560 เรียนรู้เรื่องสิ่งมีชีวิตเลื้อยคลาน ศึกษาพฤติกรรมบทบาทของงูต่อระบบนิเวศวิทยา พร้อมจำแนกแยกแยะสัตว์แต่ละชนิดออกเป็นกลุ่ม ๆ อย่างถูกต้อง 

   “ค่ายแผ่นดินไหวเขย่าโลก” ในวันที่ 10 และ 11 ตุลาคม 2560 เรียนรู้เรื่องโครงสร้างและส่วนประกอบของโลก เพื่อค้นหาคำตอบที่เกี่ยวกับการเกิดพื้นแผ่นดินไหว รวมถึงได้ลงมือทำแบบจำลองแผ่นดินไหว และสร้างเครื่องมือที่ใช้บันทึกคลื่นของเกิดแผ่นดินไหวอีกด้วย

   ทั้งนี้ ในแต่ละค่ายสามารถรับได้จำนวนจำกัดเพียงค่ายละ 35 คนเท่านั้น ราคาคนละ 500 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2577 9999 ต่อ 2124 หรือ ดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.nsm.or.th

Download attachments:

15 กันยายน 2560 – อพวช. ปทุมธานี / กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) นำนิทรรศการ “ยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึก” (Monsters of the Sea) จากต่างประเทศมาจัดแสดงเพื่อให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างมีสาระและสนุกสนาน ผ่านการเรียนรู้เรื่องราวของวิวัฒนาการและการปรับตัวเพื่ออาศัยอยู่ในทะเลของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักล่าที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศทางทะเล เริ่มวันที่ 15 กันยายน 2560 – 14 มกราคม 2561 ณ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ อพวช. ตำบลคลองห้า อำเภอ คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

IMG 1517 800x533

   ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การจะนำประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การสร้างกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ รวมถึงการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมวิทยาศาสตร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จึงมีนโยบายสำคัญ ประการหนึ่ง คือ การสร้างกำลังคนให้มีความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเน้นในเรื่องการสื่อสารวิทยาศาสตร์สู่ประชาชน ให้ประชาชนคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะทำให้มีความพร้อม ทั้งองค์ความรู้ และกระบวนการได้มาซึ่งความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ 

   องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ หรือ อพวช. นับเป็นหน่วยงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ให้กับประเทศ โดยเริ่มต้นจากเยาวชน ด้วยการสร้างความตระหนักและสร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ จากนิทรรศการ กิจกรรมเสริมศึกษา และการประกวดแข่งขันต่าง ๆ เป็นต้น การที่ อพวช. ได้นำนิทรรศการ “ยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึก” มาจัดแสดงในครั้งนี้ จึงเป็นวิธีการหนึ่ง ในการส่งเสริมเยาวชน ให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี โดยเยาวชนจะได้ศึกษาเรียนรู้วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตในยุคต่าง ๆ รวมถึงการเปรียบเทียบสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์และปัจจุบัน ตลอดจนตระหนักและเข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เหล่านั้น ซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาการคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ และการสร้างจิตตระหนักอนุรักษ์สิ่งมีชีวิต ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และยังสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อีกด้วย

IMG 1474 800x533

   ดร.อภิญาณ์ หทัยธรรม รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัรฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า นิทรรศการ “ยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึก” หรือ Monsters of the Sea เป็นนิทรรศการที่ อพวช. ได้นำมาจากต่างประเทศ เพื่อนำมาจัดแสดงให้เยาวชนและประชาชนคนไทยได้เรียนรู้เรื่องราวของวิวัฒนาการและการปรับตัวเพื่ออาศัยอยู่ในทะเลของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักล่าที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศทางทะเล โดยนิทรรศการชุดนี้จะพาผู้เข้าชมทุกคนข้ามห้วงสมุทรแห่งกาลเวลา เพื่อรู้จักสิ่งมีชีวิตเจ้าของตำนานยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึกในแต่ละยุคสมัย นับตั้งแต่อดีตเมื่อราว 300 ล้านปีก่อนจวบจนถึงปัจจุบัน พร้อมตื่นตาตื่นใจไปกับหุ่นจำลองขนาดใหญ่ของสัตว์ทะเลดึกดำบรรพ์ที่มีความยาวตั้งแต่ 5-13 เมตร ด้วยเทคนิคการแสดงแบบ Animatronics ที่สร้างมิติในการเคลื่อนไหวให้ดูสมจริง ไม่ว่าจะเป็น “ลิฟยาแทน” (Livyatan) ชื่อของมันมีที่มาจากสัตว์ร้ายในตำนาน ตัวมันเองเป็นบรรพบุรุษของวาฬหัวทุย ผู้กินเนื้อวาฬด้วยกันเอง “ปูรุสซอรัส” (Purussaurus) จระเข้ขนาดมหึมาที่มีกรามและฟันที่แข็งแรงพร้อมด้วยแรงกัดที่มากกว่าไดโนเสาร์ที- เร๊กซ์ถึง 2 เท่า! “เพลซิโอซอรัส” (Plesiosaurus) สัตว์เลื้อยคลานคอยาวผู้เป็นตำนานต้นแบบของเนสซีหรือสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์ สัตว์นักล่ามหากาฬ “ไพลโอซอรัส” (Pliosaurus)เจ้าของฉายาเพชฌฆาตเอ๊กซ์ (Predator X) ที่มีขนาดลำตัวยาวถึง 13 เมตร และหนักมากกว่า 200 ตัน รวมทั้ง “เมกาโลดอน” (Megalodon) ฉลามยักษ์ที่มีขนาดของกรามที่ใหญ่ถึง 2 เมตร มีฟันขนาดใหญ่เกือบเท่าฝ่ามือคน พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการ การปรับตัว และการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ในทะเล ตลอดจนสาเหตุของการสูญพันธุ์ แล้วยังถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทำความรู้จักกับสัตว์เลื้อยคลานดึกดำบรรพ์ในทะเล ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่ในช่วงระยะเวลาเดียวกันกับไดโนเสาร์ แต่ไม่จัดว่าเป็นสัตว์กลุ่มเดียวกัน โดยในนิทรรศการชุดนี้ยังได้นำเสนอหุ่นจำลองสัตว์เลื้อยคลานในทะเลแห่งมหายุคเมโซโซอิกไว้ด้วยกันหลายชนิดอีกด้วย

IMG 1790 800x533

   นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเสริมศึกษา (Education program) ภายในนิทรรศการให้เลือกสนุกสนาน อาทิ มหาสมุทรสุดหยั่ง (Ocean Zones Exploration) เรียนรู้การแบ่งเขตของทะเลออกเป็นระดับชั้นความลึกตามการส่องผ่านของแสงและรู้จักสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในแต่ละระดับชั้น ไขวาฬดีมีประโยชน์ (Whale Bubble Experiment) เรียนรู้ถึงประโยชน์ของชั้นไขมันหนาที่สะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนังบางๆ ของวาฬและโลมา ว่ามีส่วนช่วยในการดำรงชีวิตของสัตว์กลุ่มนี้ใต้ท้องทะเลอย่างไร จัดจำแนกแยกยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึก (Classifying Sea Monsters) เรียนรู้เรื่องการจัดจำแนกแยกชนิดเพื่อแบ่งกลุ่มยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึกตามหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต สืบเสาะเลาะชายหาด (Beach Detective) เรียนรู้ถึงผลกระทบของขยะในทะเลที่ไม่ได้ส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเลเท่านั้น แต่ยังส่งย้อนกลับมาถึงตัวเราเองอีกด้วย Bubble Sea Lives เรียนรู้ถึงรูปทรงที่เหมาะของสัตว์ทะเลที่ช่วยให้เคลื่อนที่ได้อย่างว่องไวในน้ำ Giant in the Bottle : ยักษ์ใหญ่ใต้สมุทร เรียนรู้การจมตัวและลอยตัวของสัตว์ทะเล เช่น หมึกยักษ์ จากแขนสู่ครีบ เรียนรู้วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตผ่านการศึกษาโครงกระดูกสัตว์ต่างๆ พร้อมร่วมกิจกรรม Walk Rally ในหัวข้อ “ตามหาอาหารของยักษ์ใต้ทะเล” (Food Chain of Sea Monsters) พร้อมใบ passport ในการชมนิทรรศการ

   ดร.อรรชกาฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเชิญชวนเยาวชนและประชาชนคนไทยมาร่วมเปิดประสบการณ์เรียนรู้และร่วมผจญภัยไปในโลกเหนือจินตนาการกับนิทรรศการ “ยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึก” (Monsters of the Sea) ได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2560 – 14 มกราคม 2561 วันอังคาร – ศุกร์ เวลา 09.30 -16.00 น. วันเสาร์ –อาทิตย์ เวลา 09.30 -17.00 น. ที่ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ อพวช. ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2577 9999 ต่อ 2122, 2123
www.nsm.or.th หรือ www.facebook.com/NSMthailand

Image Gallery

IMG1914800x533
IMG1768800x533
IMG1795800x533

เรื่องย่อ  Finding

finding 425 600

Finding เด็กหญิงสาวตามล่าสมบัติจากลายแทงในสมุดคุณย่า 
   เด็กหญิงสาว (มิว) มีความฝันและตั้งใจว่าเมื่ออายุครบ 15 ปี จะตามไปเก็บสมบัติอันล้ำค่า ที่ผู้เป็นย่า ได้ซ่อนไว้ภายในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ โดยมีเพียงสมุดเล่มเก่าที่หน้าปกเป็นเลข 1 ซึ่งมีความหมายถึงการเริ่มต้น เพียงเล่มเดียวเท่านั้น สมบัตินี้ผู้เป็นย่าเตรียมไว้ให้ตั้งแต่”มิว”ยังเล็ก ซึ่งสมุดเก่าเล่มนั้น จะนำ “มิว” ไปสู่การหาสมบัติอันล้ำค่า ระหว่างตามหาสมบัติ “มิว” จะต้องพบกับความสงสัยและการเรียนรู้สิ่งต่างๆในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ก่อนจดบันทึกลงในสมุด ซึ่งเป็นเคล็ดลับการหาสมบัติที่ง่ายขึ้น ตามที่ ”ย่า” บอกไว้ จากนั้น “มิว” จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆอย่างมากมาย โดยต้องใช้สมองและไหวพริบ ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหา เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของสมบัติล้ำค่า ซึ่ง “มิว” ทำสำเร็จ แต่เมื่อเห็นสมบัติล้ำค่าแล้ว กลับไม่ได้เป็นทรัพย์สินหรือเงินทอง...สมบัติล้ำค่าที่ “มิว” ตามหาอยู่นั้นคืออะไร และ”มิว” จะมีความรู้สึกอย่างไร เมื่อสมบัติล้ำค่าที่อุตสาห์ฝ่าฟันอุปสรรค หาใช่เงินทองไม่

   โดยทีม Caps Lock เป็นผลงานของนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งทีมฯ มีความคาดหวังว่าการทำหนังสั้นเรื่องดังกล่าวออกมา จะกระตุ้นหรือเชิญชวนให้ผู้ชม โดยเฉพาะนักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ประชาชน หันมาค้นคว้าหาความรู้ ใส่สมองของตัวเองอยู่สม่ำเสมอ เพราะความรู้มีอยู่ทุกที่รอบตัว หากมีการสังเกตหรือไหวพริบต่างๆ ความรู้ที่ได้มานั้นจะเป็นประสบการณ์ในการดำรงชีวิตต่อไป เพราะ “ความรู้ ไม่มีวันสิ้นสุด ความรู้คือสมบัติอันล้ำค่า” ที่ทุกคนต้องหา

 
กรอกอีเมลเพื่อติดตามข่าวสาร